วิรัช กรุงเทพฯ
หมวดตอบจดหมาย เรียน อ.ช้าง–วัดห้วย ผมก็เป็นอีกคนที่ติดตามเว็บช้าง–วัดห้วย ผมขอแนะนำตัวก่อนเลย ผมชื่อวิรัช อยู่กรุงเทพฯ ผมเป็นเพื่อน...
อ่านเพิ่มเติมสมบัติ กรุงเทพฯ
หมวดตอบจดหมาย สวัสดีครับ... อ.ช้าง ที่นับถือ ผมชื่อสมบัติครับ ผมมีพระเครื่องและเครื่องรางจะมาฝาก อ.ช้าง ลงขายในหมวดตอบจดหมา...
อ่านเพิ่มเติมประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
หมวดตอบจดหมาย เรียน... อ.ช้าง วัดห้วย ผมได้เคยส่งภาพคตขนุนมาสอบถาม อ.ช้าง อยู่ 1 ครั้งก็นานมากแล้ว และก็สอบถามว่า คตขนุ...
อ่านเพิ่มเติมหมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม.
หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม สวัสดี อ.ช้าง–วัดห้วย ที่นับถือ ผมได้ติดตามเว็บช้าง–วัดห้วย โดยเฉพาะหมวดตอบจดหมายเก...
อ่านเพิ่มเติมรายการเพิ่มเติมใหม่ !!!
อัพเดทวันที่ 12 เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม คุณอำนาจ กรุงเทพฯ - พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 2 - พระปิดตา หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง พิมพ...
อ่านเพิ่มเติมเนื่องจากมีเพื่อนสมาชิกโทรเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์วาสนา” ว่าทำไมพื้นผิวมีลักษณะออกขาวเหมือนพระสร้างใหม่เลย ให้คุณช้าง ช่วยอธิบายให้กระจ่างและแม่พิมพ์นี้พิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้มบล็อกนี้คุณช้างมีมั้ย ถ้าไม่มีช่วยหาองค์มาเปรียบเทียบให้หน่อย ผู้ใหญ่ที่นับถือขอมา
สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เกศทะลุซุ้ม ของ ช้าง–วัดห้วย |
สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์วาสนา” ที่ลงฝากขาย ผมคิดในใจแล้วว่าจะต้องมีคนคิดต่าง ซึ่งก็สามารถคิดได้ทั้งนั้น แต่คนส่วนใหญ่จะชอบพระผิวออกสีน้ำตาลหรือพื้นผิวสีเข้ม คือมีคราบความเก่าและจะไม่ค่อยชอบเนื้อพระสีออกขาว ๆ แต่ถ้าคนเก่งหรือคนดูเป็นให้ขาวแค่ไหนเค้าก็ดูได้ทั้งนั้น ทีนี้เรามาดูกันว่าคราบสีขาวบนพื้นผิวพระสมเด็จเกิดจากอะไร ก็คือ เวลากดเนื้อในแม่พิมพ์ลงในบล็อก เนื้อสมเด็จที่จะกดองค์นี้ (องค์วาสนา) เนื้อจะค่อนข้างเหลวก็กดลงไป แล้วย้ำด้วยแผ่นไม้กดลงด้านหลังอีกที น้ำปูนที่อยู่ในเนื้อก็ซึมไหลลงสู่ด้านล่างของแม่พิมพ์ หรือก็คือ จะอยู่ด้านหน้าขององค์พระ เมื่อเคาะพระออกจากแม่พิมพ์ก็จะมีผิวบาง ๆ ก็คือเมือกปูนอยู่ด้านหน้าอีกชั้นหนึ่ง แล้วค่อยตัดข้างแล้วไปผึ่งลมให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วผิวด้านบนก็เริ่มขาวขึ้น นี่แหละคือสาเหตุทำไมผิวพระจึงขาว ส่วนความสะอาด ก็คือการเก็บรักษา สมัยก่อนไม่มีตลับพระใส่เหมือนสมัยนี้ จึงเก็บรักษาโดยการห่อผ้าประเจียด ห่อกระดาษ เป็นต้น แต่สำหรับ “องค์วาสนา” เจ้าของเล่าให้ฟังว่า ตอนได้มา องค์นี้ถูกจุ่มเทียนหุ้มทั้งองค์เลย พระที่อยู่ด้านในจึงไม่โดนลมไม่โดนฝุ่นได้แต่เซ็ตตัวแห้งอยู่ในเทียนที่ห่อหุ้มเป็นเวลาหลายสิบปี หรืออาจจะถึงร้อยปี เพราะเทียนขาวที่ห่อพื้นผิวเก่า มาก ๆ เมื่อแกะเทียนออกมาพระจึงค่อนข้างสะอาดสมบูรณ์ นี่คืออีกสาเหตุหนึ่งที่พระทำไมขาวสะอาดไม่มีฝุ่นเลย และพระองค์นี้ก็ไม่ได้ล้างทำความสะอาดเลยแค่แกะเทียนออกมาก็หลุดออกเป็นแผ่นแล้ว และท่านผู้เข้ามาเยี่ยมชมสมเด็จ “องค์วาสนา” องค์นี้ ลองขยายใหญ่ดูจะเห็นเหมือนมีรอยแตกเป็นเส้นเล็ก ๆ หรือการหดตัวกระจายอยู่ในเนื้อทั้งด้านหน้าและด้านหลัง อย่างว่าแหละคนเป็นดูแปบเดียวก็รู้ว่าเก่าแน่นอน อย่าง อ.เต็ก นครปฐม ตอนหยิบรูปขึ้นมาดู ผมนับในใจว่า 1...2...3 อ.เต็ก พูดเลยว่า “องค์นี้ซิแชมป์ตัวจริง พระไม่ได้ใช้เลย” แค่ 3 วินาทีเท่านั้นเอง ยอดเยี่ยมจริง ๆ
ส่วนเรื่องพิมพ์สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ 4 เกศทะลุซุ้ม แม่พิมพ์นี้ที่เหมือน “องค์วาสนา” ผมก็มีอยู่ 1 องค์ ๆ นี้ไม่เคยออกมาให้ใครเห็นเลย สภาพค่อนข้างสวยมาก ระดับแชมป์อันดับต้น ๆ เลย พื้นผิวโดยทั่วไปมีคราบความเก่า สีออกน้ำตาล ส่วนด้านหลังเป็นหลังกาบหมากแบบแนวตั้ง ส่วนแม่พิมพ์บอกได้คำเดียวว่า “ลึก...อย่างกับเหว” เรามาลองเปรียบเทียบความเหมือนว่าเหมือนกันอย่างไร
เปรียบเทียบความเหมือน “องค์วาสนา” กับ องค์ “ช้าง–วัดห้วย”
1. การล้มของซุ้มแม่พิมพ์จะล้มค่อนข้างชัดเจนเหมือนกันทั้ง 2 องค์
2. เส้นกรอบแม่พิมพ์ด้านบนตามลูกศรชี้ ช่างจะแกะเป็นเส้นนูนเล็ก ๆ ชัดกว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด เป็นเหมือนกันทั้ง 2 องค์
3. จุดนี้แหละที่ชัดเจนที่สุด คือหัวไหล่ซ้ายพระจะแหว่งและบางเหมือนกันทั้ง 2 องค์
4. การวางแขนและซอกแขนลึกเหมือนกันทั้ง 2 องค์
5. รอยยุบตัวของฐานชั้นล่างตามลูกศรชี้ เหมือนกันทั้ง 2 องค์
สรุป พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์วาสนา” และองค์ของ “ช้าง–วัดห้วย” ทั้งสององค์เป็นแม่พิมพ์ที่ 4 พิมพ์เกศทะลุซุ้ม และเป็นบล็อกเดียวกัน เหมือนกันทุกจุด ต่างกันแค่พื้นผิวเท่านั้นเอง