พระเครื่อง
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระแชมป์–ราคาเบา
- หมวดพระยอดหายาก
หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
4 จตุรเทพ
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
หมวดนี้ทางผู้เขียนและทีมงานจะรวบรวม พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่องค์ในตำนานระดับความสวยถึงขั้นแชมป์ไปจนถึงโคตรแชมป์และคัดกรองให้เหลือแค่ระดับโคตรแชมป์เท่านั้นเพียง 4 องค์ มาเข้าไว้ในหมวด “4 จตุรเทพโคตรแชมป์” มารวมไว้ที่นี่ที่เดียวในเว็บช้าง–วัดห้วย เว็บช้าง–วัดห้วยไม่ต้องไปดูหมวดอื่นให้ดูหมวดนี้หมวดเดียวจบ อย่างเช่นเปิดหมวด “4 จตุรเทพโคตรแชมป์” เปิดตัวครั้งแรกเราจะอัญเชิญ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ มาเปิดหมวดเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นสิริมงคลเอาฤกษ์เอาชัยก่อน โดยเราจะคัดวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ตั้งแต่พิมพ์ที่ 1 ถึงพิมพ์ที่ 4 ที่ผู้เขียนคิดว่าสวยที่สุดและแชมป์ที่สุดมานำเสนอ แค่บล็อคละ 1 องค์เท่านั้น ซึ่งแต่ละบล็อคผู้เขียนก็มีสวยอยู่หลายองค์ แต่ผู้เขียนจะคัดที่ดีที่สุด หวงที่สุด และมาตรฐานที่สุดมาให้เพื่อนสมาชิกและผู้อ่าน ผู้ศึกษา เข้ามาชมโดยผู้เขียนจะใช้พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ทุกองค์ที่เป็นของผู้เขียนเท่านั้นมาลงให้ชมโดยผู้เขียนจะพยายามถ่ายรูปใหม่ทุกครั้ง จะได้เห็นว่า “พระสภาพปัจจุบัน สภาพเป็นอย่างไรต่างจากเมื่อ 20-30 ปีก่อนอย่างไรครับ
ส่วนรายละเอียดเราจะพูดถึงว่าพระองค์นั้น ๆ ได้มาครอบครองอย่างไร เอาเท่าที่จดจำได้ และรายละเอียดของพิมพ์เป็นอย่างไร สวยงามขนาดไหน ส่วนตำหนิพิมพ์คงจะไม่ได้กล่าวถึงแต่อาจจะพูดแค่บางจุดที่พิเศษและไม่เคยพูดหรือกล่าวถึงในหมวดบทความแค่นั้น ส่วนพระจะสวยแชมป์ขนาดไหนเรามาเริ่มต้นกันได้เลยครับ
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่
“องค์สรรเสริญ”
พิมพ์ที่ 1 มีเส้นแซมใต้ตัก
ถ้าจะกล่าวถึง พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 มีเส้นแซมใต้ตัก เป็นพระสมเด็จที่มีองค์ครูเป็น “องค์เสี่ยดม” ซึ่งเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 ที่สวยงามที่สุดที่วงการยอมรับและยกย่องว่าสวยสุดติด 1 ใน 5 ของประเทศ ส่วนด้านมูลค่าราคาก็มีคนยื่นขอซื้อในราคา 100 ล้านบาทแล้ว แต่เจ้าของปฏิเสธ
พระสมเด็จ “องค์เสี่ยดม” ซึ่งเป็นวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 ที่มีคนต่างยกย่องมาเป็นองค์ครูคือเป็นตัวอย่างหรือดูศึกษาเป็นตัวอย่าง และเทียบเคียงมากที่สุด แต่จริง ๆ แล้วแม่พิมพ์ พิมพ์ 1 มีอยู่ 2 พิมพ์ หรือ 2 บล็อค ก็คือ พิมพ์ 1 ที่เหมือน “องค์เสี่ยดม” ถือเป็นพิมพ์มาตรฐานที่วงการเล่นหากันตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันและถือเป็นมาตรฐานและยอมรับว่าเป็นพิมพ์ 1 มีบล็อคเดียวพิมพ์เดียว แต่จริง ๆ ยังมีอีก 1 บล็อคที่เป็นพิมพ์ 1 ผู้เขียนขอเรียกว่าพิมพ์ 1 บล็อค B แล้วกัน ซึ่งมีพิมพ์ทรงคล้ายกันมาก เพียงแต่พิมพ์ทรงจะล่ำกว่าเล็กน้อย นอกนั้นจะเหมือนกันหมด แต่ก็อีก ถ้าพิมพ์ไม่เหมือนต้นแบบ 100% ส่วนใหญ่จะไม่ยอมรับ และจะบอกว่าผิดพิมพ์ครับ และผู้เขียนจะไม่อยากเป็นคนแรกที่เป็นคนพูดหรือริเริ่มหรอก เพราะว่ามันเหนื่อยมากกว่าคนจะยอมรับ แต่ผู้เขียนแค่พูดให้รู้เท่านั้น แต่ถ้าใครอยากจะศึกษาว่าเป็นพิมพ์แบบไหน ก็ไลน์มาขอรูปจากผู้เขียนได้เลย จะได้ส่งรูปทางไลน์ให้ครับ ID Changwathuay ตามนี้ ความรู้ไม่เสียเงินไม่เอาก็ไม่ว่ากันครับ แต่ผมว่าคนที่จะมาขอส่วนใหญ่น่าจะเป็นลูกค้าหรือเพื่อนสมาชิก ช้าง–วัดห้วย เท่านั้นครับ แต่วันนี้ เราจะพูดถึงพิมพ์ 1 พิมพ์มาตรฐานเท่านั้นครับ
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์สรรเสริญ” พิมพ์ 1 ของผู้เขียนองค์นี้ ถ้าถามว่าได้มาอย่างไร และซื้อมาเท่าไหร่ ก็บอกตามตรงเลยว่าจำไม่ได้แล้ว ก็คือ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ผู้เขียนเช่าเก็บอย่างเดียวโดยมี อ.เต็ก คอยตรวจสอบให้อีกที สมัยก่อนผู้เขียนเริ่มต้นใหม่ ๆ ที่ไหนบอกว่ามีพระสวยโดยเฉพาะพระสมเด็จก็จะไปดู ถ้าแท้แต่ราคาสูงก็จะพา อ.เต็ก ไปดูอีกที ถ้าแท้ก็ซื้อต่อรองจบภายในวันเดียว แต่ถ้าไม่แท้ก็บอกเจ้าของพระตามตรงว่าไม่แท้ และต้องขอโทษด้วยที่ทำให้มีความหวังและเสียเวลา แต่ถ้าเจอพระถูกตามบ้านก็ซื้อมาเลยโดยคัดที่มาตรฐานดูดีมาให้ อ.เต็ก เช็คขั้นตอนสุดท้ายอีกที ถ้าแท้ก็ใส่กรอบสแตนเลสไว้ก่อน ถ้าเก๊ก็ลงกระป๋อง ผู้เขียนหาพระตามบ้านมา 15-20 ปี ไปทั่วไปหมด แต่พักหลังพระชาวบ้านเริ่มหมดก็เอาของเก่าที่เก็บ ๆ ไว้มาคัดอีกที คัดเอาเฉพาะองค์หัวกะทิเท่านั้นมาศึกษา และสอบถาม อ.เต็ก อีกครั้ง อ.เต็ก ดูบางองค์แล้วยังสอบถามกลับว่า พระสมเด็จองค์นี้ของมึงเหรอ ผู้เขียนก็ตอบว่าใช่ครับ อากู๋ (อ.เต็ก) ก็ถามต่อว่ามึงซื้อมาเท่าไหร่? ก็ตอบว่าจำไม่ได้แล้ว ซื้อมาเป็น 10-20 ปีแล้ว ได้จากใคร ซื้อมาเท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว แต่ที่จำได้ซื้อมาจากตามบ้าน ชาวบ้านก็ขายไม่ได้แพง ก็สะสมได้หลายสิบองค์ที่สวยและมาตรฐาน โดยคัดกรองรอบสุดท้ายจาก อ.เต็ก นครปฐมครับ
สภาพพิมพ์ “องค์สรรเสริญ” เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 มีเส้นแซมใต้ตัก และเป็นแม่พิมพ์บล็อคเดียวกันกับ “องค์เสี่ยดม” ซึ่งเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 ที่สวยสุดติด 1 ใน 5 อันดับของพระสมเด็จวัดระฆังที่สวยที่สุดในประเทศเลยทีเดียว ส่วน “องค์สรรเสริญ” ก็เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 1 มาตรฐานเช่นเดียวกันกับ “องค์เสี่ยดม” เป็นพระที่กดพิมพ์ได้ลึก คม ชัดเจน ทุกสัดส่วน การตัดข้างได้ตรง ได้ฉาก ไม่โย้เอียง พื้นผิวด้านหน้าทั่วไปแตกลายงา เอกลักษณ์ของพิมพ์นี้จะมีเส้นแซมใต้ตักโดยเส้นนี้จะวิ่งมาจากใต้เข่าขวาพระในระยะห่างพอควรและค่อย ๆ เฉียงโค้งขึ้นและไปแนบใต้เข่าซ้ายพระแล้วค่อยม้วนลง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพิมพ์นี้ จุดที่ 2 ก็คือ จะมีสังฆาฏิตรงหน้าอกซ้ายพระ 1 เส้นขนาดเล็ก แถมอีกจุดแล้วกันคือจุดที่ 3 ให้ดูฐานชั้นบน ตรงยอดสูงของฐาน จะมีเส้นเล็ก ๆ อยู่บนยอดฐาน 1 เส้น ถ้าพระติดลึกจะติดชัดเจนทุกองค์ครับ ส่วนจุดอื่น ๆ ก็ดูคล้าย ๆ กัน ส่วนด้านหลังเป็นแบบหลังเรียบ มีรอยปริตามขอบเล็กน้อย และมีเม็ดมวลสารแบบเม็ดขนาดใหญ่หรือจะเรียกว่า “เม็ดพระธาตุ” ก็ได้ จำนวน 3-4 เม็ดลอยอยู่
สรุปสุดท้าย ผู้เขียนจะถือว่า พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์สรรเสริญ” พิมพ์ 1 องค์นี้ เป็นพระที่สวยที่สุดในรังพระช้าง–วัดห้วย และเป็นพระสวยระดับแชมป์อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ยากมาก ๆ ที่จะหาพระสมเด็จพิมพ์ 1 องค์ไหนมาเทียบได้เลย นี่แหละคือ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์สรรเสริญ” พิมพ์ 1 ที่จัดอยู่ในหมวด “4 จตุรเทพโคตรแชมป์” องค์ที่ 1 ครับ
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 2 อกวี
“องค์บารมี”
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์บารมี” พิมพ์ที่ 2 องค์นี้เคยเขียนบทความไปแล้ว ในหมวด “พระสุดหวงของช้างวัดห้วย” พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ “องค์บารมี” องค์นี้เป็นองค์ที่ผู้เขียนหวงที่สุดในบรรดาพระสมเด็จที่เก็บไว้ทั้งหมดก็คือไม่คิดที่ปล่อยออกหรือถ้าจะปล่อยออกก็จะเป็นองค์สุดท้ายของชีวิตเลยทีเดียว
เล่าคร่าว ๆ แล้วกัน ตอนที่ได้พระสมเด็จ “องค์บารมี” จำได้ว่าได้มาจากคนสามพรานเข้าไปทางคลองใหม่ เข้าไปค่อนข้างลึกมาก ตอนแรกเจ้าของพระก็เอาพระไม่สวยออกมาก่อน 2 ชุด ก็บอกว่าถ้าชุดนี้มีแต่ไม่สวยผมก็กลับแล้ว เจ้าของก็งัดเอาพระสมเด็จองค์สวยที่แขวนอยู่ออกมา ก็คือ “องค์บารมี” (เจ้าของตั้งชื่อแต่เดิมแล้ว) เจ้าของเปิดราคาไว้ 9 แสน สุดท้ายจบที่ 5 แสน แต่ก่อนจ่ายเงินก็ให้ลูกชายเจ้าของถือพระพร้อมนายหน้า และผู้เขียนนำพระไปให้ อ.เต็ก ดูก่อนว่าผ่านมั้ย สรุป อ.เต็ก ก็ดูผ่านและบอกด้วยว่า องค์นี้สวยมากนะ ก็ไปเบิกเงินก็ขับรถไปส่งที่บ้านเจ้าของพระ
ภายหลังก็มีความคิดว่าต้องให้สายตรงพระเบญจภาคีดูอีกสัก 1 คน โดยคิดถึง อ.สมศักดิ์ จวงสวัสดิ์ อาจารย์ใหญ่ของเรารุ่น ๆ เดียวกับอากู๋ (อาจารย์เต็ก นครปฐม) ก็จัดพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่อย่างเดียวใส่กล่องขนาดกลางจำนวน 6 องค์ อ.สมศักดิ์เปิดขึ้นดูแล้วตกใจ คำแรกที่ดูดาเปล่ายังไม่ได้ส่องกล้อง อ.สมศักดิ์บอกดูเบื้องต้นแล้วน่าจะดีทั้งหมดนะ แล้วค่อยหยิบส่องทีละองค์ สรุปแล้ว อ.สมศักดิ์บอกดูแล้วแท้ทุกองค์เลย แนะนำให้ไปหาเฮียกวง (กิตติ ธรรมจรัส) ผมก็รู้จักดีแต่ก็ต้องปฏิเสธไปเพราะแค่อยากรู้เราดูแท้ อ.เต็กดูแท้ แล้ว อ.สมศักดิ์จะดูแท้หรือเปล่า? แค่ อ.สมศักดิ์ดูแท้ผมก็ยิ้มแป้นแล้ว ตอนนั้น อ.สมศักดิ์ยังสอบถามผู้เขียนว่า “เราไปเอาสมเด็จมาจากไหนตั้งเยอะแยะ” ผมก็ตอบไปว่าผมเพิ่งเริ่มสะสมและต้องปรึกษาผู้รู้ผู้ชำนาญตัวจริง ๆ ถึงจะมั่นใจ จำได้ตอนนั้นเอาไป 6 องค์ ก็มี องค์สรรเสริญ, องค์บารมี, องค์กึกก้อง, องค์สัมฤทธิ์ และองค์พิมพ์ที่ 1 องค์ที่ 1 ในเว็บช้าง และองค์สุดท้าย องค์ที่เหมือน “พิมพ์อธิบดี” องค์ที่ 4 ในเว็บช้าง และคนสุดท้ายที่ไปให้ดูก็คือ ท่านนิพนธ์ โดยผ่าน ส.ส. ที่รู้จักสนิทกับพรรคพวกก็ลองเอารูปไปเสนอดู ทันทีที่ท่านนิพนธ์เห็นรูปองค์บารมี ท่านก็ชมว่าสวยจริง และขอนัดชมตัวจริงภายหลัง, โดยผู้เขียนเป็นคนถือพระไปด้วยตัวเอง วันนั้นเจอกันที่พรรคก็เจอท่านอภิสิทธิ์, ท่านอภิรักษ์ และ ส.ส. อีกหลายท่าน ท่านนิพนธ์เมื่อเจอกันก็ส่องดูสักพักก็อมยิ้มเล็ก ๆ ก็ขอไปประชุมพรรคก่อน ส่วนรายละเอียดไว้ค่อยคุยภายหลัง ตอนหลังคนติดต่อก็บอกราคาไป 45 ล้านบาท ท่านนิพนธ์ก็บอกว่าพระสมเด็จองค์นี้สวยจริง แต่ราคาไม่น่าจะถึงขนาดนี้จึงขอปฏิเสธไป ผู้เขียนมั่นใจแล้วว่าแท้แน่นอนจึงส่งไปลงหนังสือ “มรดกพระเครื่อง” ในคอลัมน์ “พระแท้ผู้อ่านฝากมาโชว์” เค้าก็ลงให้นะ และมีเสี่ยราชบุรีโทรมาสอบถามว่าเปิดราคาไว้เท่าไหร่ ในใจก็คิดว่าไม่สู้ราคาแน่ก็เลยปฏิเสธไป ก็บอกว่า คอลัมน์นี้ พระแท้ฝากมาโชว์ก็คือโชว์อย่างเดียวไม่ได้ขายครับ
สภาพพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์บารมี” พิมพ์ที่ 2 อกวี เป็นพระสวยงาม มาก ๆ ล้ำค่าจริง ๆ เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ที่กดพิมพ์ได้ลึกสุดใจจริง ๆ ตำหนิพิมพ์ที่ดูก็ติดครบทุกจุด พิมพ์ทรงมาตรฐาน พื้นผิวมีคราบนวลขึ้นกระจายทั่วพื้นผิวอย่างเป็นธรรมชาติ พื้นผิวบางจุดมีร่องรอยของมวลสารหลุดออกบ้างเล็กน้อย ทำให้เนื้อแลดูไม่แข็งกระด้าง แลดูนุ่มนวล สมกับเป็นพระสมเด็จที่สวยที่สุดในรังช้างวัดห้วย ส่วนด้านหลังเป็นแบบหลังเรียบ ช่วงบนจะเรียบ ส่วนด้านล่างจะเป็นแบบหลังกระดานเป็นขีดขวางอยู่ 5-6 เส้น ถือว่าสมบูรณ์มาก ๆ เลยครับ
สรุปสุดท้าย พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์บารมี” เป็นพระสมเด็จพิมพ์ที่ 2 ที่สวยงามสง่าและไม่มีใครสู้มาตลอด 30 ปีแล้วผู้เขียนเก็บไว้ใส่ตลับอยู่เฉย ๆ ไม่ได้เอาออกมาใส่เลย แค่บางครั้งเอาออกมาถ่ายรูปเท่านั้น นอกนั้นไม่มีใครได้เห็นแต่เท่าที่จำได้ก็มีแค่เซียนใหญ่ 2 ท่าน ก็คือ อ.เต็ก นครปฐม, อ.สมศักดิ์ จวงสวัสดิ์, ท่านนิพนธ์ ที่เหลือก็คน 2 คนเท่านั้น ก็ประมาณ 5-6 คนเท่านั้น และ “องค์บารมี” จะอยู่กับผู้เขียนไปจนวันสุดท้ายของผู้เขียนเลยทีเดียว
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 3
“องค์กึกก้อง”
เริ่มต้นตอนที่จะคัดเอาพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 3 อกกระบอก มาลงในหมวด 4 จตุรเทพ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ก็คิดไม่ตกว่าจะเอาองค์ไหนมาลงดีที่สุด ส่วนองค์สวยที่เข้ารอบก็มีอยู่ประมาณ 3 องค์ที่เข้าขั้นสวยมาก ๆ ก็เลยคิดว่า พระที่จะเอามาลงก็คือ ต้องสวยสมบูรณ์ พิมพ์ทรงชัดเจน ไม่มีอะไรมาบดบังทำให้มองไม่ชัดเจน เช่น พระลงรักปิดทองแบบนี้ไม่เอาก็คือจะเห็นพิมพ์ทรงพระไม่ชัดเจน และก็เพราะสมเด็จองค์ที่จะเอามาลงเนื้อหาจัดจ้านก็ยิ่งดี จึงสรุปเลือก “องค์กึกก้อง” เป็นพระสวยมาก ลึก คมชัด พิมพ์ทรงติดชัดเจน แถมเนื้อจัดมากอีกด้วยมาลงในหมวดนี้ครับ
ประวัติความเป็นมาและได้ครอบครอง
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 3 อกกระบอก “องค์กึกก้อง” ผู้เขียนได้มาจากลูกค้าในหมวดตอบจดหมายนี่แหละ ก็ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ก็คือตอนนั้น เริ่มเปิดหมวดตอบจดหมายใหม่ ๆ ก็มีลูกค้าส่งรูปมาทางจดหมาย ก็สอบถามตามปกติ รายนี้ก็มีพระมาสอบถาม 4-5 องค์ มีพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 1 องค์ และพระรอดหลวง 1 องค์สึกเล็กน้อยแต่เนื้อจัดมาก (แต่เจ้าของพระคิดว่าเป็นพระคง ลำพูน) นอกนั้นอีก 3 องค์เป็นพระย่อย ๆ กับพระไม่แท้ เจ้าของมีความประสงค์ที่จะขายให้ผู้เขียนโดยเฉพาะ เจ้าของชื่อลุงก้อง อายุตอนนั้นใกล้ 70 ปีแล้ว ลุงก้องเปิดราคาพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ไว้ที่ 190,000 บาท และพระรอดหลวง (แต่ลุงก้องคิดว่าเป็นพระคง) เปิดราคาไว้ที่ 25,000 บาท ลุงก้องเขียนข้อความในจดหมายไว้ว่า ถ้า อ.ช้าง ดูแท้และสนใจองค์ไหนให้ติดต่อหาลุงทางโทรศัพท์ หลังจากได้รับจดหมายก็เลยติดต่อกลับวันถัดมา ก็สอบถามลุงก้อง ตรง ๆ เลยว่าพระของลุงผมดูแท้ 2 องค์ คือ พระสมเด็จ กับพระคงลำพูน ก็เลยสอบถามลุงก้องว่าจะดูพระตัวจริงได้อย่างไร ลุงก้องบอกตัวเค้าอยู่ที่ จ.ลำพูน ผมก็บอกว่าก็ไกลอยู่นะให้ลุงลงมาหาผมที่นครปฐมเอาพระมาดูตัวจริงได้เปล่า? ผมก็บอกให้กำลังใจลุงว่า เอาพระมาเถอะ ยังไงรับรองก็มีเงินกลับลำพูนแน่นอน (ที่กล้าพูดแบบนี้เพราะในใจก็คิดว่าราคาก็ถูกอยู่แล้ว ถ้าเค้าลดได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นครับ) สุดท้ายลุงก็ตกลง เจอกันที่บิ๊กซี นครปฐม ลุงก้องก็ให้ลูกชายขับรถมาที่นครปฐม ผมได้ดูพระตัวจริงและก็ถูกใจ พระเหมือนในรูปไม่ผิดเพี้ยน ก็ลองสอบถามลุงก้องว่า ซื้อ 2 องค์เลย ลดหย่อนได้เท่าไหร่ ลุงก้องปรึกษากับลูกชายก็บอกว่าพระสมเด็จลดราคาเหลือ 150,000 บาท ส่วนพระคงจาก 25,000 บาท ลดเหลือแค่ 15,000 บาท รวม 2 องค์ = 165,000 บาท ผมก็ไม่ต่อเยอะ แค่บอกลุงก้องว่าเอาถ้วน ๆ แล้วกัน 160,000 บาท ลุงก้องก็หันไปปรึกษาลูกชายว่าเอายังไง ลูกชายลุงก้องก็บอกให้ อ.ช้าง ไปเถอะ อ.ช้าง ก็ไม่ได้ต่อเยอะแค่เอาถ้วน ๆ ลุงก้องก็ตกลง ผมก็บอกลุงก้องว่าจะเอาเงินสดหรือจะให้โอนเข้าบัญชี ผมก็บอกธนาคารอยู่ชั้นบนก็เดินไปเบิกเงินสดด้วยกัน เมื่อจ่ายเรียบร้อยแล้ว ลุงก้องก็สอบถามผู้เขียนว่าเงินนี้ลุงเอาไปใช้ได้เลยมั้ย ผมฟังแล้วก็รู้ว่าลุงก้องมีความกังวลก็เลยสอบถาม ผมก็ตอบไปว่า ลุงก้องขายผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว และพระผมก็รับเรียบร้อยแล้ว ลุงเอาเงินไปใช้ได้เลยไม่ต้องกลัวผมจะเอาพระมาคืน ลุงใช้เงินได้อย่างสบายใจไม่มีคืน ไม่ต้องรับประกันความแท้ให้ผม คือผิดถูกผมรับผิดชอบเอง ส่วนพระที่ผมซื้อไป พระสมเด็จเป็นวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ส่วนอีกองค์ไม่ใช่พระคงลำพูน แต่เป็นพระรอดหลวงนะครับ ส่วนราคาก็พอ ๆ กัน แต่พระรอดหลวงจะหายากกว่าเท่านั้นเอง ลุงก้องก็บอกว่าลุงก็คิดว่าเป็นพระคงลำพูนเสียอีก ผมก็อธิบายเบื้องต้นให้ลุงทราบว่า ลุงก้องดูซิว่า พระคงลำพูนจะไม่มีเกศ แต่พระรอดหลวงจะมีเกศ แค่นั้นง่าย ๆ แต่เป็นพระจังหวัดลำพูนเหมือน ๆ กันครับ แล้วผมก็เดินส่งลุงก้องขึ้นรถกลับบ้านครับ
รุ่งขึ้นก็โทรไปหาอากู๋ (อ.เต็ก นครปฐม) ก็ถามว่า อากู๋อยู่บ้านรึเปล่า? จะเข้าไปหาครับ อากู๋ก็รีบถามว่ามีอะไรเหรอ? ผมก็ตอบว่ามีวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 3 อกกระบอก สวยมาก 1 องค์ ก็รีบเข้าไปหาอากู๋เลย เมื่อถึงบ้านอากู๋ก็นั่งรออยู่โต๊ะหินข้างบ้านอยู่แล้ว ผมก็รีบควักกล่องพระให้อากู๋ดู อากู๋ก็เปิดกล่องแล้วบอกทันทีเลยว่า “แท้ทั้งคู่” แล้วก็หยิบพระสมเด็จขึ้นมาส่องดูก่อน คำแรกที่อากู๋พูดออกมาคือ “โคตรสวยเลย” และดูง่าย เนื้อจัด พิมพ์อกกระบอก พิมพ์ที่ 3 มึงดูถูกต้องแล้ว ส่วนพระรอดหลวงองค์นี้ก็แท้ ถึงจะสึกไปหน่อยแต่ได้เนื้อที่จัดมาก อากู๋ก็สอบถามพระสมเด็จองค์นี้มึงซื้อมาเท่าไหร่ ผมก็ตอบไป 150,000 บาท ส่วนพระรอดหลวงซื้อมา 15,000 บาท อากู๋ก็ขอแบ่งพระรอดหลวงจากผู้เขียนไปในราคา 2 หมื่นบาท พอดีอากู๋มีใบสั่งอยู่หามานานมากแล้วเพิ่งจะเจอนี่แหละ สุดท้ายก็นั่งคุยกับอากู๋ อากู๋ก็บอกกับผู้เขียนว่าเดี๋ยวนี้มึงเก่งแล้วนะ ซื้อพระหลักหมื่นหลักแสนซื้อเลยโดยไม่ต้องเอามาดูก่อน ก็ถือว่าเก่งแล้วซื้อได้ถูกต้อง และพระมึงต้องหาดูง่าย ๆ แบบนี้ ถ้าได้เนื้อจัด ๆ ได้ยิ่งดี คนอื่นเค้าไม่ได้เก่งอย่างเรา ฉะนั้นเราจึงต้องหาแบบดูง่าย ๆ แบบนี้ ขายแล้วจะได้ไม่มีปัญหาเอามาคืน ผมก็ได้แต่ตอบว่าครับ ๆ ก็ยังไงพระหลัก ๆ ของผมก็ให้อากู๋ดูให้อีกครั้งเสมอ ยังไงก็ยังให้อากู๋ประคองให้ผมเก่งกว่านี้ขึ้น ๆ ไปอีกอยู่นั่นแหละครับ (ผู้เขียนก็ว่าควรจะ ชม ๆ เค้าหน่อย เค้าจะได้ไม่น้อยใจ เหมือนอยู่คนเดียว) ผู้เขียนคิดว่าคนเราเมื่อเก่งขึ้นมีความรู้เพิ่มมากขึ้น แล้วก็อย่าลืมมองย้อนกลับมาที่เดิมเราบ้าง ก็คือเมื่อก่อนเราดูพระไม่เป็นเราให้เค้าสอนจนเรามีวิชา จนเรากล้าแกร่งขึ้นมา เราก็อย่าลืมคนที่สอนเรามา, จะเป็นครูอาจารย์หรือคนชี้แนะทุกคนที่ช่วยเหลือเรามา ทุกคนที่กล่าวมานี้คือผู้มีพระคุณแก่เราทั้งสิ้น ยามที่พวกเค้ามีอายุมากขึ้นหรือเลิกลาวงการไป ก็ไปเยี่ยมเยียนเค้าบ้าง ไปนั่งคุยเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมา แค่นั้นเค้าก็มีความสุขแล้ว ทุกวันนี้ อ.เต็ก นครปฐม อ.สมศักดิ์ จวงสวัสดิ์ ก็ได้จากพวกเราไปแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ แต่ผู้เขียนยังระลึกถึงเสมอ คนดีคนเก่ง คนมีความสามารถ เวลาจากไป คนที่อยู่ก็ยังกล่าวถึงเสมอครับ
สรุป พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 3 อกกระบอก “องค์กึกก้อง” เป็นพระที่สวยสมบูรณ์ เนื้อจัดจ้าน ดูง่าย ส่วนรายละเอียดก็กล่าวมาและอธิบายให้ทราบพอสมควรแล้วครับ
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 4 เกศทะลุซุ้ม
“องค์สัมฤทธิ์”
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 4 เกศทะลุซุ้ม เอวผายออก “องค์สัมฤทธิ์” พระสมเด็จ “องค์สัมฤทธิ์” นี้ เดิมเป็นพระของอากู๋ (อ.เต็ก นครปฐม) ผู้เขียนขอแบ่งมาจากอากู๋เมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้ว ตอนนั้นผู้เขียนยังดูพระสมเด็จไม่เป็นเลย ช่วงนั้นก็ซื้อแต่พระสายนครปฐม เช่น ราหูอมจันทร์ หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง หน้าเสือ หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา และปิดตา หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ ส่วนสมเด็จยังไม่กล้าซื้อเลย แค่ซื้อพระสมเด็จบางขุนพรหมของอากู๋มาองค์เดียว พิมพ์อกครุฑ แต่หักชำรุด ซื้อมา 140,000 บาท เมื่อดูชำนาญแล้วก็ขายคืนอากู๋ไป 8 หมื่นบาท อากู๋ก็ไปขายต่ออีกที ส่วนพระสมเด็จ “องค์สัมฤทธิ์” องค์นี้ตอนได้มาก็คือเย็นวันหนึ่งอากู๋ก็โทรมาหาว่าได้พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่มา 1 องค์สวย มึงจะดูเปล่า? ถ้าดูให้มาพรุ่งนี้เช้า ๆ เพราะสาย ๆ จะเข้าท่าพระจันทร์ พอรุ่งขึ้นผมไปหาอากู๋แต่เช้าเลย ตอนนั้นอากู๋ยังอยู่บ้านเก่าอยู่เลย ก็เลยขอชมเป็นบุญตาสักครั้ง ก็สอบถามอากู๋ซื้อมาเท่าไหร่ อากู๋บอกรวมแล้วกับองค์อื่น ๆ ด้วยประมาณ 150,000 บาท ผมก็นึกในใจว่าจะขอแบ่งแต่ยังไม่กล้าพูด ก็เลยถามว่าอากู๋จะไปขายที่ท่าพระจันทร์เหรอ? อากู๋บอกถ้ามึงชอบก็แบ่งให้มึงก่อน แต่ถ้ามึงไม่ชอบกูก็จะโทรไปหาเฮียเธ๊า กูบอกทีเดียว เฮียเธ๊าเตรียมเงินไว้เลย ก็คือ รู้มือ รู้ตากันอยู่แล้ว ผมก็ถามอากู๋ว่า อากู๋จะเปิดราคาเฮียเธ๊าไว้เท่าไหร่ อากู๋ก็ตอบว่า 4 แสน (สมัยก่อนช่วงนั้นพระสมเด็จซื้อขายกัน เซียนขายให้เซียนก็ราคาประมาณหลักแสน 4-6 แสน) ผมก็นึกในใจว่า เราขอแบ่งอากู๋สัก 3.5 แสนก็แล้วกันน่าจะได้ ในฐานะหลานชายน่าจะไม่ปฏิเสธนะ ผมก็อ้ำอึ้งก็เลยเอ่ยปากว่า ถ้าผมขอแบ่งพระสมเด็จองค์นี้สัก 3.5 แสน ผมจะเก็บไว้ศึกษาเป็นตัวอย่างก็คงเก็บไว้ใช้ติดตัว อากู๋จะแบ่งให้ผมได้เปล่า? อากู๋ก็ยิ้ม แฮ่ แฮ่ แล้วถามว่ามึงจะเอาจริงเหรอ ผมก็บอกจริงครับ ถ้าอากู๋ตกลงผมก็ไปเบิกเงินให้เดี๋ยวนี้เลยไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯ และไม่ต้องบอกเฮียเธ๊าคือองค์นี้ไม่ให้ใครเห็นเลย อากู๋ก็บอกว่างั้นให้มึงก็ได้ 3.5 แสนนะ ผมก็บอกงั้นอากู๋รอแป๊บผมไปธนาคารเบิกเงินให้เลย ผมก็ไปเบิกเงิน 3.5 แสนมาให้อากู๋ อากู๋ก็ชมว่ามึงนี่ใจถึงโว้ย เงินหลายแสนมึงตัดสินใจแค่ 5 นาทีมึงตกลงเลย งั้นมึงมานี่กูจะสอนวิธีดูพิมพ์ที่ 4 เกศทะลุซุ้มให้มึงอย่างละเอียดเลย ผมก็รีบนั่งฟังและจดจำ อากู๋สอนรอบเดียวก็บอกมึงลองไปเปิดหนังสือทบทวนดูที กูพูดจริงหรือเปล่า ลองเทียบกับในหนังสือดู ผมก็ยิ้มแป้นในใจมีความสุขมาก ได้สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ที่จัดว่าสวยมากในขณะนั้น ผมก็สอบถามอากู๋ว่าตอนซื้อขายอากู๋เล่าให้ฟังบ้างได้เปล่า ส่วนราคาซื้อขายก็ไม่ว่ากันผมพอใจซื้อในราคานี้ถือว่าพอใจแล้ว
หลังจากนั้นอากู๋ก็เล่าเรื่องให้ฟังว่า มีนายหน้าโทรมาก่อนว่าพรุ่งนี้เฮียเต็กอยู่บ้านหรือเปล่า จะพาเจ้าของพระเอาพระไปขายให้ที่บ้าน อากู๋ก็ถามว่ามีพระอะไรบ้าง นายหน้าก็ตอบว่า มีพระสมเด็จอยู่หลายองค์ และพระอื่น ๆ อีกหลายกล่อง อากู๋ก็ถามนายหน้าว่าแล้วมีพระอะไรดูแล้วเข้าตาบ้างไหม นายหน้าบอกส่วนใหญ่จะเป็นพระสมเด็จ เพราะบ้านนี้อดีตเป็นข้าราชการเก่า ตอนนี้เจ้าของพระตายไปแล้วพระก็ไม่มีใครสนใจ พอดีนายหน้ารู้จักก็บอกว่าพระเครื่องยังเปลี่ยนเป็นเงินได้ เดี๋ยวผมพาไปขายให้ อากู๋ก็บอกว่าถ้าเอาพระมาแล้วเก๊ทั้งหมด นายหน้าก็พูดกับเจ้าของพระเองแล้วกันนะ ถึงวันนัดเจ้าของพระก็มากับนายหน้า สอบถามแล้วว่ามาจากอยุธยานี่เอง ก็เอาพระมาหลายกล่อง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพระใหม่ อากู๋ก็เลือกดูสมเด็จก่อนมีอยู่หลายสิบองค์ ดูแล้วก็มีแท้อยู่บ้าง 1-2 องค์ แต่แค่ดูผ่าน ๆ ก็คือดูแล้ววาง เดี๋ยวเจ้าของจะตื่น เมื่อดูอย่างอื่นแล้วก็มีแต่ย่อย ๆ ที่ แท้ ๆ ก็มีแต่พระใหม่ไม่มีราคา (ผมก็ถามแทรกอากู๋ขึ้นมาว่า เวลาเลือกอากู๋คัดออกมาวางต่างหากไว้หรือเปล่า?) อากู๋ก็บอกว่าเวลาเราไปเลือกพระตามบ้าน เราจะคัดออกมากองไว้เฉพาะที่เราจะซื้อไม่ได้ เมื่อเลือกเสร็จเจ้าของบ้านก็จะเก็บที่เลือกขึ้น แต่จะขายที่ไม่เลือกแล้วมันจะไม่จบ อากู๋จึงบอกว่าถ้าเหมาหมดคิดถูก ๆ หน่อยได้เปล่า เพราะผมจะต้องไปขายอีกทีไม่รู้จะไปไหวหรือเปล่า? เจ้าของพระสองผัวเมียไปปรึกษากัน แล้วเดินมาบอกว่าทั้งหมดเอา 1 แสน อากู๋ก็ร้องโอ้โหตั้ง 1 แสน ผมว่าผมเอาไปขายเต็มที่ก็ได้แค่ 1-2 หมื่นบาท แล้วผมต้องจ่ายค่านายหน้าอีก เจ้าของพระก็ถามแล้วคนซื้อจะซื้อได้เท่าไหร่ อากู๋ก็บอกว่าสัก 2 หมื่น ผมหยิบแค่ไม่เกิน 5 องค์ ที่เหลือคุณเอากลับไป คนขายก็บอกว่าผมไม่เอากลับ แล้วคุณให้อีกหน่อย แล้วคุณเอาไปหมดเลย อากู๋ก็บอกงั้นเพิ่มให้อีก 1 หมื่น รวมเป็น 3 หมื่น ถ้าคุณไม่เอาคุณก็ไปขายที่อื่นก่อนก็ได้ แล้วผมต้องจ่ายค่านายหน้าที่พามาอีกด้วยนะ เค้าก็คุยกันบอกให้เค้าเถอะ เจ้าของพระก็บอกตกลง 3 หมื่นบาท อากู๋ก็เปิดลิ้นชักควักเงิน 3 หมื่นให้ เป็นการจบลงด้วยดี แล้วก็ลากลับอยุธยาครับ
หลังจากเจ้าของพระกลับไปแล้ว อากู๋ก็นั่งคัดพระ สรุปได้พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์สัมฤทธิ์” 1 องค์ ได้เจดีย์วัดระฆังไม่สวย 1 องค์ และได้นางพญา 1 องค์ พิมพ์อะไรจำไม่ได้แล้ว และได้อย่างอื่นอีกหลายองค์ พอรุ่งขึ้นนายหน้ามารับค่านายหน้าจากอากู๋อีก 10% = 3 พันบาท และให้พระที่คัดออกให้นายหน้าไปขายเป็นพระใหม่กับพระกล่อง น่าจะได้ 7-8 พันบาท รวมแล้วนายหน้าได้ประมาณ 1 หมื่นบาท
รุ่งเช้าผมก็เข้ากรุงเทพ (ท่าพระจันทร์) ไปทำตลับพระ เอาองค์สัมฤทธิ์ไปวัดตลับและผู้เขียนใส่มาตลอดตั้งแต่วันที่ได้ ใส่มาถึงทุกวันนี้รวมเวลาแล้วใส่มา 20 กว่าปีขึ้นไป ภายหลังจากเริ่มเล่นมาหลายปีก็เริ่มเก่งขึ้นมีอะไรก็จะปรึกษาอากู๋มาตลอด อากู๋ก็ให้คำแนะนำได้ดี ผมจึงเริ่มเปิดเว็บช้าง–วัดห้วย และก็สร้างชื่อมาถึงทุกวันนี้ จะมีคนเข้ามาดูถึงวันที่เขียนนี้ถึง 12 ล้านคน ก็ถือว่าเป็นการตอบรับที่ดี ภายหลังเมื่อมั่นใจว่าเราดูสมเด็จถึงขั้นแล้วก็เลยคัดสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ 4 แม่พิมพ์ มาชี้ตำหนิ ช่วงนั้นคนเข้ามาดูเยอะมาก แต่ 4 องค์ที่เอามาลงมีเปลี่ยนพิมพ์ 3 องค์เดียวเป็น “องค์กึกก้อง” พิมพ์ที่ 3 แทน “องค์ทองพันชั่ง” ซึ่งมีรักทองปกคลุมทำให้ดูพื้นผิวไม่ชัดเจน ตอนลงบทความพระสมเด็จพิมพ์ใหญ่ 4 แม่พิมพ์ ก็มีคนโทรมาสอบถามว่าเปิดราคาไว้เท่าไหร่ ผมก็ตอบกลาง ๆ ไว้ว่ายังไม่เปิด เมื่อถึงเวลาวันหนึ่งก็อาจจะเปิดแต่ราคานั้นจะแพงมาก ๆ คนที่โทรมามีทั้งคนสูงอายุ บางรายก็ให้ลูกน้องโทรมาสอบถาม สุดท้ายก็จะอธิบายถึงแม่พิมพ์ที่ 4 เกศทะลุซุ้มอย่างย่อ ๆ แล้วกัน ส่วนสภาพพิมพ์ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระที่สวยงามสง่ามาก ๆ ยากที่จะหาองค์ไหนมาเทียบเคียงได้เลย
- เริ่มจากเส้นซุ้มจะล้มเอียงไปทางซ้ายพระเสมอ
- ส่วนความโค้งของซุ้มครอบแก้ว ช่วงโค้งทางซ้ายพระจะโค้งราบและเตี้ยกว่าทางด้านขวาพระเสมอ
- เส้นบังคับพิมพ์ด้านขวาพระจะลากลงมาจรดด้างล่าง ส่วนเส้นบังคับพิมพ์ทางซ้ายพระเส้นจะลากลงมาประมาณแนวกึ่งกลางแขนซ้ายถึงข้อศอกซ้ายพระแล้วจะแนบกลืนเข้าไปในซุ้มครอบแก้ว
- ส่วนใบหน้าพระจะเรียวยาวเป็นรูปไข่หรือผลมะตูม
- รักแร้ซ้ายพระจะสูงและมีเนื้อระหว่างรักแร้กับหัวไหล่บางกว่าข้างขวาพระ
- หน้าอกไปถึงเอวพิมพ์ 4 จะมี 2 พิมพ์ คืออกวี และอกวีเอวผายออก ส่วนองค์นี้จะเป็นแบบอกวีเอวผายออก
- ฐานชั้นบนเมื่อเทียบกับหน้าตักพระ ทางขวาพระจะแคบแล้วค่อยถ่างออกมาทางซ้ายพระจะกว้างกว่าทางขวาพระ ส่วนร่องฐานชั้นบนทางซ้ายพระจะลึกแล้วค่อยตื้นขึ้นมาทางขวาพระ
- พิมพ์ 4 บางองค์จะมีเส้นแซมใต้ตักแบบบาง, และจะมีอีกเส้นที่ฐานชั้นกลางแบบบาง ๆ
- นอกจากนั้นหลักการดูก็คล้าย ๆ กันทุกพิมพ์ครับ
ส่วนพื้นผิวทั่วไปด้านหน้าผิวจะออกขาว มีรอยหดตัวของเส้นซุ้มบ้างเล็กน้อย “องค์สัมฤทธิ์” องค์นี้จะตัดปีกกว้างเช่นเดียวกับพิมพ์ 4 ทั่วไปที่จะตัดปีกกว้างคือเป็นมาตรฐาน ส่วนด้านหลังเป็นแบบหลังเรียบ มีรอยย่น ยุบ แยกบ้างเล็กน้อย จัดว่าเป็นพระสมเด็จที่สวยงามสง่า และถ้าไม่สวยจริง ไม่รักจริง ไม่มาตรฐาน คงไม่อยู่ในคอช้างวัดห้วยมายาวนานถึง 20 กว่าปีแล้วครับ และไม่รู้ว่าใครจะเป็นคนดูแลต่อไป แต่ก็มีคนจอง ๆ ไว้แล้วแหละ และหมวด 4 จตุรเทพวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ก็จบลงแค่นี้ ส่วนคราวหน้า หมวดนี้จะต่อด้วยเบญจภาคีชุดใหญ่ที่ดีที่สุดของช้างวัดห้วยเป็นครั้งต่อไป จะมีวัดระฆังพิมพ์ใหญ่, นางพญาพิมพ์เข่าโค้ง, พระรอดพิมพ์ใหญ่, ซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ข้างกนก, และผงสุพรรณหน้าแก่ รวม 5 องค์ที่สวยที่สุดก็คอยติดตามก็แล้วกันครับ
ช้าง–วัดห้วย
082-5699162
ID Line Changwathuay