พระเครื่อง
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระแชมป์–ราคาเบา
- หมวดพระยอดหายาก
หมวดพระยอดหายาก
No. M002 พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ พิมพ์เล็กหลังแบบ (ฟอร์มพิมพ์ใหญ่)
พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ เป็นพระปิดตายุคแรก ๆ ของวงการพระเครื่องเมืองไทย และถูกจัดให้อยู่อันดับ 1 ไว้ตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบันยังไม่มีพระปิดตาองค์ไหนที่จะแซงเบียดขึ้นอันดับ 1 ได้เลย และถ้าไม่ดีจริง คงอยู่อันดับที่ 1 ไม่ได้นานขนาดนี้ได้หรอก ตามประวัติโดยย่อ ๆ กล่าวไว้ว่า หลวงพ่อแก้ว เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี และได้ย้ายไปอยู่ที่ชลบุรี ท่านได้สร้างพระปิดตารุ่นแรก ๆ ออกแจกลูกศิษย์ และผู้มีจิตศรัทธาที่มาช่วยกันสร้างวัด โดยหลักเกณฑ์คือให้คนไปตัดไม้ในป่าแล้วชักลากไม้มาแปรรูปที่วัด พระรุ่นนี้จึงตั้งชื่อว่า “รุ่นลากซุง” หรือ “แลกซุง” ก็ได้ ภายหลังหลวงพ่อแก้วก็เริ่มสร้างพระปิดตาขึ้นมาอีกโดยเป็นพิมพ์มาตรฐานหรือจะเรียกว่าพิมพ์นิยมก็ได้ นั่นก็คือพิมพ์หลังแบบ มีทั้งพิมพ์ใหญ่, พิมพ์กลาง และพิมพ์เล็ก พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์สร้างจากผงอิธิเจ คือเป็นผงที่เน้นในทางสร้างเสน่ห์และมหานิยม นอกจากนั้นยังผสมผสานด้วยวัตถุมงคลและสิ่งอาถรรพณ์อื่นอีกมากมาย เช่น ไม้ไก่กุก คือไม้ที่ไก่ป่าตัวผู้แสร้งจิกขึ้นมา ทำทีว่าได้อาหารมาแล้วร้องเรียกไก่ตัวเมียให้เข้ามากินอาหาร พอไก่ตัวเมียเข้ามาก็รีบวางชิ้นไม้นั้น แล้วรีบเผด็จศึกสวาททันที ไม้ชิ้นนั้นเรียกว่า “ไม้ไก่กุก” ซึ่งเป็นวัตถุอาถรรพณ์อย่างหนึ่งซึ่งหายากมาก นอกจากนั้นยังมีว่านยาต่าง ๆ อีก เช่น ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว, เสน่ห์จันทร์แดง, ว่านเศรษฐี และว่านที่เป็นศิริมงคลอีกหลายอย่างที่ผสมลงไปในเนื้อพระ ด้วยเหตุนี้เองผู้คนจึงนิยมขูดผงที่ด้านหลังองค์พระไปผสมให้ผู้หญิงกิน และทุกคนต่างได้ผลและสมหวัง และพระปิดตาหลวงพ่อแก้วจึงถูกกล่าวขานว่า เด่นดังทางด้านมหาเสน่ห์เป็นเยี่ยมที่สุด ต่อไปผู้เขียนจะพูดถึงแม่พิมพ์หลวงพ่อแก้ว แม่พิมพ์หลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กจะแบ่งออกเป็น 2 หมวดใหญ่ ได้แก่ พิมพ์เล็กเนื้อชินตะกั่ว และพิมพ์เล็กเนื้อผงคลุกรัก และเนื้อผงคลุกรักแบ่งออกเป็น 2 พิมพ์หลัก ๆ ได้แก่ พิมพ์เล็กนั่งขัดราบ และพิมพ์เล็กนั่งขัดเพชร พระปิดตาหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์ พิมพ์ที่ไม่ได้จัดเข้าเป็นพิมพ์มาตรฐาน แต่ก็เป็นพระแท้ที่มีน้อยมีอีกหลายแม่พิมพ์ อย่างเช่นพิมพ์เล็ก หลังแบบ, หลังเรียบ เนื้อคลุกรัก วงการพระเครื่องจะนิยมเล่นพิมพ์เล็กทรง ชลูด ๆ หน่อย ซึ่งเป็นพิมพ์ที่หายากมากกว่าพิมพ์ใหญ่เสียอีก เมื่อก่อนใครมีหลวงพ่อแก้วก็เก็บเข้ารังหมดกว่าจะหมุนเวียนออกมา ก็ต้องกลายเป็นมรดกของลูกหรือของหลานจึงได้เปลี่ยนมือ จะเห็นว่าพระปิดตาหลวงพ่อแก้วใครมีต่างหวงแหน ส่วนพิมพ์สมัยก่อนช่วงนั้นเซียนมีพระอะไรอยู่ในมือก็จัดพิมพ์เป็นพิมพ์นิยม แค่นี้ก็เป็นพิมพ์มาตรฐานแล้ว ส่วนพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว พิมพ์เล็กหลังแบบฟอร์มพิมพ์ใหญ่องค์นี้ ถ้าไม่บอกว่าเป็นพิมพ์อะไรก็คงคิดว่าเป็นพิมพ์ใหญ่แต่ไม่นิยม หรือบางคนก็อาจจะดูเก๊เลยก็ได้ พระปิดตาหลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กหลังแบบองค์ที่ท่านได้ชมอยู่นี้ถ้าเผยโฉมสัก 20-30 ปีก่อน ก็อาจจะกลายเป็นพิมพ์นิยมในปัจจุบันแล้วก็ได้ เพราะพิมพ์ทรงคล้ายพิมพ์ใหญ่มาก ผู้เขียนว่าอาจจะเป็นคนแกะแม่พิมพ์คนเดียวกันก็ได้ เช่น ให้ดูขอบทางด้านขวามือพระจะเอียงลาดกว่าทางซ้ายพระจุดนี้แม่พิมพ์ใหญ่ก็เป็น ต่อไปให้ดูหัวไหล่ขวาพระจะสูงกว่าหัวไหล่ซ้ายเล็กน้อย พิมพ์ใหญ่ก็เป็นเช่นเดียวกัน ส่วนอื่น ๆ ก็คล้ายกัน เพียงแต่ขนาดเล็กกว่ากันก็เท่านั้นเอง พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว พิมพ์เล็กหลังแบบฟอร์มพิมพ์ใหญ่ แบบองค์นี้เลย เมื่อปีที่แล้วก็ได้มา 1 องค์ ซึ่งเป็นของลุงอุดมแบ่งให้ในราคาถูก เพราะลุงอุดมให้เพื่อนล้างทำความสะอาดเลยเหมือนพระใหม่ไป และผู้เขียนก็แบ่งให้พรรคพวกไปแล้วในราคาหลักหมื่น ส่วนพระปิดตาหลวงพ่อแก้วองค์นี้ผู้เขียนได้มาจากหมวดตอบจดหมาย ก็คือมีท่านผู้อ่านเข้ามาชมเว็บช้าง บังเอิญไปเห็นพระปิดตาหลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กหลังแบบฟอร์มพิมพ์ใหญ่ของลุงอุดม ก็เลยติดต่อมา ผู้เขียนก็บอกว่า คุณลองส่งรูปมาดูก่อนถ้าเหมือนกันจริงแล้วค่อยคุยกัน วันที่ได้รับจดหมายเจ้าของพระโทรมาพอดี เจ้าของพระถามก่อนเลยว่าเหมือนของลุงอุดมมั้ย ผู้เขียนก็ตอบไปว่าเหมือนกันครับ เป็นพิมพ์เดียวกัน ผู้เขียนก็แย็บถามเจ้าของพระว่า ถ้าจะปล่อย เจ้าของจะเปิดราคาเท่าไรครับ คำตอบก็คือ หลักล้านต้น ๆ ผู้เขียนฟังแล้วแทบหงายหลังตกเก้าอี้ ผู้เขียนก็บอกไปว่า งั้นคุณเอาไปลองขายก่อน ถ้าขายไม่ได้แล้วค่อยมาคุยกัน เจ้าของพระหายไปประมาณ 1 เดือน แล้วก็โทรมาบอกว่าพวกเซียนตู้ดูแล้วบอกว่าไม่ชอบ และจะซื้อเสี่ยงแค่หลักพัน บอกไม่รู้ที่ เจ้าของพระก็ตอบว่า พระองค์นี้ผมดูแล้วเป็นหลวงพ่อแก้ว พิมพ์เล็ก เซียนพระรีบตอบสวนเลยว่า พิมพ์นี้เค้าไม่เคยเห็นมีในวงการพระเลย เจ้าของพระก็กลับมาตั้งหลักใหม่ ก็ไปให้อีกที่ดู ผลออกมาก็คล้ายกัน เจ้าของพระก็เลยโทรมาปรึกษาผู้เขียน ผู้เขียนก็แนะไปว่า หลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กพิมพ์นี้มีน้อยมาก ๆ เซียนบางคนยังไม่เคยเห็นเลย และก็คงจะไม่กล้าซื้อแน่ ผู้เขียนถึงอยากให้เจ้าของพระลองไปขายก่อนยังไงก็ขายไม่ได้แน่ และอีกอย่างพระถ้ายังไม่ถูกจัดเป็นพิมพ์นิยม หรือมาตรฐานที่เค้าเล่นกัน จะไม่ได้ราคา คุณจะเอาองค์เป็นล้าน ผมว่ายาก มีทางเดียวก็คือแลกของ ผู้เขียนก็เสนอไปว่า แลกบางขุนพรหมมั้ย ผู้เขียนให้เลือก 1 กล่อง ชอบองค์ไหนก็หยิบไปเลย เจ้าของพระก็สนใจ สุดท้ายก็นัดเจอกัน เจ้าของพระก็รีบหยิบหลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กออกมาให้ชม ผู้เขียนก็รีบส่องดูแล้วด้านหน้าสมบูรณ์ 100% ผิวพรรณต่าง ๆ สมบูรณ์มาก ส่วนด้านหลังเป็นหลังแบบจะมีรอยเขยื้อนเนื่องจากพระเป็นองค์ขนาดเล็กเวลาจะเอาพระออกจากแม่พิมพ์ช่างจะทำช่องด้านล่างไว้ เวลาจะเอาพระออกจากพิมพ์ก็ใช้ไม้แหลมเล็กทิ่มเข้าไปในใต้ฐานพระแล้วก็งัดขึ้นมา จึงทำให้พระเขยื้อนหรือบิดตัวบ้างก็ไม่เป็นไร ก็ยังถือว่าชอบ ถูกใจ ผู้เขียนก็รีบหยิบบางขุนพรหมมาให้เจ้าของพระหลวงพ่อแก้วดู เห็นแล้วตกใจ ทำไม อ.ช้าง เอามาให้ดูเยอะขนาดนี้ ผู้เขียนก็รีบตอบกลับไปว่าไม่รู้คุณดูพระได้ขนาดไหน ผมจึงเอามาให้ดูหลายองค์หน่อย สุดท้ายก็เลือกบางขุนพรหมพิมพ์เส้นด้ายมีขี้กรุเยอะหน่อยแต่ก็ดูง่ายดี ผู้เขียนก็รีบถามทำไมถึงชอบองค์นี้ เจ้าของพระหลวงพ่อแก้วก็ตอบว่าพระสมเด็จที่ผมจะแลกผมจะเอาไปแขวนใส่ไม่ได้เอาไปขาย ผมจึงเลือกองค์มีขี้กรุองค์นี้ถือว่าดูง่ายดี ส่วนองค์อื่น ๆ ก็ดูดีทั้งนั้น และทำไม อ.ช้าง ไม่เอาไปลงเว็บบ้าง ไม่หรอกครับ แค่ลงวัดระฆังบางอย่างแค่นั้น คนยังตกใจทำไมมีเยอะจัง และอีกอย่างวัดระฆังคนส่วนใหญ่ยังดูไม่เป็นเลย จะเอาบางขุนพรหมไปลงทำไม ดูก็ยากกว่า ปัญหาก็เยอะ บางขุนพรหมสำหรับผมก็มีไว้แลกของแบ่ง ๆ กันไป อย่าไปคิดมากของเราก็มีเยอะแยะ สุดท้ายผู้เขียนก็ได้หลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กหลังแบบมาโดยแลกกับบางขุนพรหมพิมพ์เส้นด้าย และสัญญากันว่าเมื่อแลกแล้วคือจบไม่มีการมาเปลี่ยนคืน คราวนี้เรามาวิเคราะห์กันว่าทำไมผู้เขียนจึงอยากได้หลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กองค์นี้ - พระปิดตาหลวงพ่อแก้วพิมพ์เล็กหลังแบบฟอร์มพิมพ์ใหญ่ สภาพสวยมากองค์นี้ เป็นพระหายากมาก ผู้เขียนเจอองค์นี้เป็นองค์ที่ 3 ซึ่งองค์นี้สวยสุด ส่วนตำหนิพิมพ์ก็ตรงทุกจุด พระ ปิดตาหลวงพ่อแก้วองค์นี้แท้แน่นอน ส่วนราคาไม่ต้องพูดถึง เพราะผู้เขียนไม่คิดที่จะขาย เก็บไว้ดูเล่น - ส่วนถ้าจะถามว่าทำไมกล้าแลก บางขุนพรหมพิมพ์เส้นด้ายไม่เสียเปรียบเหรอ ผู้เขียนตอบได้เลยว่า ผู้เขียนแลกพระกับใคร ผู้เขียนเสียเปรียบทุกที แต่ดีที่ว่าเราไม่ต้องจ่ายเป็นเงินสด และบางขุนพรหมเราก็เก็บไว้เยอะ และซื้อมาก็ไม่ได้แพงอะไรแลกพระถือว่าผู้เขียนพอใจแล้วครับ - และถ้าใครมีพระที่จะแลกกับผู้เขียนก็ลองโทรมาคุยดูได้ 082-5699162 ยังแลกอยู่เรื่อย ๆ แต่พระที่ผู้เขียนยังไม่มีก็มีไม่กี่อย่างหรอก ลองคุยดูได้ครับ
ช้าง–วัดห้วย |
No. M001 พระกำแพงลีลา เม็ดขนุน พิมพ์เล็ก กรุวัดพระบรมธาตุ จ.กำแพงเพชรเปิดหมวดใหม่อีกแล้วครับ คือ “หมวดพระยอดหายาก” หมวดนี้ เราจะรวบรวมพระหายากทั้งสิ้นมารวมไว้ในหมวดนี้ ไม่ว่าจะเป็นพระกรุจะเป็นเนื้อดิน ชิน หรือ พระผง หรือจะเป็นพระ ปิดตา เนื้อผง, ผงคลุกรัก หรือจะเป็นเนื้อโลหะ หรือจะเป็นเครื่องรางต่าง ๆ ที่หายาก จะเป็นพิมพ์พระที่หายากหรือขนาดของพระ พระบางพิมพ์ซึ่งไม่มีใครเคยเห็น แต่เคยได้ยินมาจากคนรุ่นก่อน เราจะพยายามรวบรวมไว้ในหมวดนี้ให้ได้มากที่สุด หรือท่านผู้อ่านมีพระหลักที่หายากและเป็นพระสวยฟอร์มดีก็ส่งมาให้ผู้เขียนได้ ผู้เขียนจะหาข้อมูลและถ้ามีความเห็นตรงกันว่าดีแท้แน่นอน ผู้เขียนก็จะนำมาลงให้ฟรี ไม่เสียสตางค์อีกเช่นเคย
No. M001 พระกำแพงลีลา เม็ดขนุน พิมพ์เล็ก กรุวัดพระบรมธาตุ จ.กำแพงเพชร
พระกำแพงลีลาเม็ดขนุน หรือคนรุ่นก่อน ๆ จะเรียกว่า “พระกำแพงเขย่ง” พระกำแพง เม็ดขนุนเป็นพระเครื่องกรุทุ่งเศรษฐี ศิลปะสุโขทัย พบครั้งแรกจากกรุวัดพระบรมธาตุ เมื่อ พ.ศ. 2392 โดยพระมหาธรรมราชาลิไทย กษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย องค์ที่ี 5 เป็นผู้สร้างไว้เมื่อ พ.ศ. 1900 ต่อมาประมาณปี พ.ศ. 2470 ก็มีผู้พบพระกำแพงเม็ดขนุนอีกที่วัดพิกุล และปี พ.ศ. 2505 ก็พบพระกำแพงเม็ดขนุนอีก แต่เป็นเนื้อชินที่กรุอาวาสน้อย กับที่กรุวัดป่ามืดเพียงเล็กน้อยแค่ 50 กว่าองค์เท่านั้น พระกำแพงเม็ดขนุนมีสร้างไว้ทั้งเนื้อดินผสมผง, เนื้อว่านหน้าทอง, เงิน, นาค และมีเนื้อชินเงิน และชินตะกั่ว ส่วนเนื้อดินผสมผง จะมี 4 สี เป็นหลัก คือ แดง, เหลือง, เขียว และดำ ทั้งนี้จะสร้างทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ส่วนทางด้านพุทธคุณของพระกำแพงเม็ดขนุน จะโดดเด่นทางด้านโชคลาภ และแคล้วคลาด ส่วนพระเนื้อชินจะมีคงกะพันเสริมด้วย นี่คือข้อมูลบางส่วนที่สำคัญที่เล่าสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน พระกำแพงเม็ดขนุนในอดีตจะได้รับความนิยมสูงสุด และได้รับการจัดอันดับเข้าสู่ชุด เบญจภาคี แต่เนื่องจากเป็นพระเครื่องที่หาได้ยาก และมีลักษณะเป็นทรงยาวชะลูด ซึ่งไม่เข้าพวกกับเบญจภาคีองค์อื่น ๆ ภายหลังจึงปรับเปลี่ยนเป็น พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่ข้างกนก เข้ามาแทน ส่วนพระกำแพงเม็ดขนุน พิมพ์เล็กองค์นี้ เป็นพระที่สวยงามมาก สภาพพิมพ์ด้านหน้าเป็นพระที่กดพิมพ์ได้ลึกมาก ให้ดูที่มือขวาพระปกติมือจะติดกันเป็นพรืด ส่วนเม็ดขนุนพิมพ์เล็กองค์นี้ นิ้วมือติดเกือบครบทั้ง 5 นิ้ว และที่นิ้วหัวแม่มือช่วงปลายยังงอนโค้งคล้ายพิมพ์ใหญ่เลยทีเดียว ส่วนอื่น ๆ ก็ติดคมชัดดี ส่วนเนื้อและพื้นผิว เม็ดขนุนพิมพ์เล็กองค์นี้เนื้อจะออกแดงเข้ม และแกร่ง ผ่านการใช้มาเล็กน้อย จึงทำให้ผิวจัดขึ้นตามร่องส่วนลึก จะมีคราบฝ้า คราบดิน และฝุ่นเกาะติดกระจายอยู่ทั่วไป ทำให้เมื่อถ่ายรูปออกมา พื้นผิวส่วนบนที่ถูกสัมผัสจะตัดกับพื้นผิวที่อยู่ตามซอก ทำให้พระเม็ดขนุนองค์นี้จะดูโดดเด่นขึ้นอีกเยอะ ส่วนปีกด้านข้างเม็ดขนุนองค์นี้จะกดพิมพ์ได้พอดีไม่ใหญ่เทอะทะเกินไป และผู้เขียนอยากจะบอกท่านผู้อ่านว่าไม่ว่าเม็ดขนุนพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เล็ก ปีกด้านข้างจะไม่ได้ตัดขอบ เวลากดได้แค่บีบ ๆ คลึง ๆ ให้ได้รูปทรง และให้ได้สัดส่วนเท่านั้น ส่วนด้านหลังพื้นผิวมีรอยลายนิ้วมือกดพิมพ์หลงเหลือเล็กน้อย และมีรอยสึกเป็นรูปใบโพธิ์ สันนิษฐานว่า เจ้าของเดิมคงเลี่ยมพลาสติก และเจาะรูเป็นรูปใบโพธิ์หรือรูปหัวใจ เมื่อใช้ไป ๆ ร่องที่เจาะรูไว้ ก็สึกภายหลัง เม็ดขนุนองค์นี้เปลี่ยนมือมา เจ้าของคนใหม่ก็แกะพลาสติกออก ก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ คนโบราณส่วนใหญ่ชอบเลี่ยมพลาสติกแล้วเจาะรูด้านหลัง ผู้เขียนก็เคยสอบถามว่าเจาะรูด้านหลังทำไม? ส่วนใหญ่จะตอบว่าจะได้ให้พุทธคุณออกมาได้ หรืออยากให้พระสัมผัสกับผิวหนัง อะไรประมาณนี้ ผู้เขียนก็ได้แต่อมยิ้มและนึกในใจว่า ดีนะที่เจาะรูด้านหลัง ถ้าเจาะรูด้านหน้า พระคงจะเสียหายมากกว่านี้ ขนาดของกำแพงเม็ดขนุนพิมพ์เล็กนี้ จะกว้างจากหัวไหล่ถึงหัวไหล่ประมาณ 8 ม.ม. และจากปลายเกศถึงขอบด้านล่าง ประมาณ 2.9 ซม. เม็ดขนุนพิมพ์เล็กไม่ว่าจะเป็นกรุวัดพิกุล หรือกรุวัดพระบรมธาตุ ขนาดองค์พระก็จะประมาณนี้ เม็ดขนุนพิมพ์เล็กเป็นพระที่หายากมาก ๆ และถ้าจะให้สวยแบบองค์นี้ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ เม็ดขนุนพิมพ์ใหญ่ผู้เขียนมีร่วม 20 องค์ และสวย ๆ ทั้งนั้น ส่วนพิมพ์เล็กมีแค่ 2 องค์เท่านั้น อีกองค์จะเป็นเนื้อเขียว แต่ไม่สวยเท่าองค์นี้ ถึงแม้เม็ดขนุนพิมพ์เล็กราคาจะไม่แพงเท่าพิมพ์ใหญ่ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว เม็ดขนุนพิมพ์เล็กองค์นี้ ผู้เขียนค่อนข้างหวงและชอบมาก เพราะองค์เล็กดี และถ้าจะปล่อยออก ก็จะต้องเป็นองค์สุดท้ายของเม็ดขนุนทั้งหมด ขอบอก
ช้าง–วัดห้วย |