พระเครื่อง
- หมวดรวมพระเบญจภาคีทุกประเภท
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระยอดหายาก
- ผลการประกาศรางวัลงานประกวดรูปพระเครื่อง ครั้งที่ 2
ลุงอุดม เพชรบุรี
หมวดตอบจดหมาย
สวัสดีคุณช้าง–วัดห้วย
วันนี้ลุงนำพระเจ้าสัว หลวงปู่บุญ เนื้อทองเหลือง (หรือเนื้อทองผสม) ที่เมื่อก่อนลุงจะซื้อขึ้น เลยส่งรูปให้คุณช้างดูให้ก่อน สุดท้ายก็เป็นพระแท้จริง ๆ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะเอามาลงในหมวดตอบจดหมาย เลยถ่ายรูปให้ 4 ด้านเลย เจ้าสัว หลวงปู่บุญ เนื้อทองผสมองค์นี้ ความจริงลุงเองกะจะเอาไว้ใช้เอง เพราะชอบชื่อเป็นมงคลดี แต่ถึงเวลาแล้วก็ต้องปล่อยออกเหมือนกับ “สมบัติผลัดกันชม” ให้คนมีวาสนา และชอบพระเครื่องเจ้าสัวองค์นี้ไปบูชาต่อแล้วกันครับ ลุงเปิดราคาเจ้าสัวองค์นี้ที่ 650,000 บาท องค์ที่ 2 เป็นพระกลีบบัว พิมพ์แขนอ่อนสุโขทัย กรุเจดีย์สูง จังหวัดสุโขทัย เนื้อดิน องค์นี้เป็นพระเนื้อดินที่สวยมาก หน้าตาพระติดชัดเจนดี ลุงเปิดราคาที่ 35,000 บาท องค์ที่ 3 ราหูอมจันทร์ วัดศรีษะทอง จังหวัดนครปฐม องค์นี้ก็เคยส่งให้คุณช้างดูแล้วครับ คงจำได้ เปิดราคาที่ 120,000 บาท องค์ที่ 4 เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ขนาดเล็กสำหรับผู้หญิงหรือเด็ก ขนาดประมาณกว้าง 1.5 ซม. ยาว 2.1 ซม. สูงจากห่วงถึงหลังเบี้ย 2 ซม. เบี้ยลูกนี้เป็นรักแดงปิดทองเก่าได้จากคนนครปฐมย้ายถิ่นมาอยู่เพชรบุรี ลุงเจอเลยขอแบ่งมา เป็นเบี้ยที่เก่ามาก ๆ เปิดราคาที่ 85,000 บาท ทั้งหมดรวม 4 ชิ้น คุณช้างช่วยลงให้ลุงด้วยครับ
โชคดี...ทุกวัน
ลุงอุดม เพชรบุรี
ตอบ ลุงอุดม เพชรบุรี
เหรียญหล่อเจ้าสัว หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
องค์แรกเป็นเหรียญหล่อเจ้าสัว เนื้อทองเหลืองหลังจารเฑาะว์มหาอุด สมัยก่อนเหรียญเจ้าสัวเซียนพระทั่วไปจะเล่นแค่เนื้อเงินและเนื้อทองแดงเท่านั้น ภายหลังเมื่อเนื้อเงินและเนื้อทองแดงราคาพุ่งสูงจนซื้อกันไม่ไหว เนื้อเงินมีน้อยราคาพุ่งเกือบ 10 ล้านบาท เนื้อทองแดงราคาพุ่งถึง 2-3 ล้านบาท ซึ่งราคาสูงมากจนทุกคนก็จะเอื้อมไม่ถึง ปัจจุบันผู้คนจึงหันมาเล่นเจ้าสัวเนื้อทองเหลืองกันมากขึ้น และเป็นที่ยอมรับกันในระดับหนึ่ง ราคาเมื่อก่อนยังไม่มีคนสนใจราคาแค่หลักหมื่นต้นถึงหลักหมื่นปลาย สวยแชมป์ก็แสนกว่าบาท ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นไปแตะหลักล้าน ต้น ๆ แล้ว เมื่อก่อนใครเก็บไว้บ้างก็ถือว่าโชคดีแล้ว
ส่วนการสร้างเหรียญเจ้าสัวเนื้อทองเหลืองก็ต้องเริ่มจากสมัยก่อนพระวินัยโกศล เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรในสมัยนั้น ได้ขออนุญาตหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ในการจัดสร้างเหรียญหล่อเจ้าสัว เนื้อทองเหลือง หลังจากการหล่อเสร็จสิ้นแล้ว หลวงปู่บุญก็ทำการปลุกเสกให้เป็นที่เรียบร้อย พระวินัยโกศลได้แบ่งเหรียญหล่อเจ้าสัวเนื้อทองเหลืองไปจำนวนหนึ่ง เพื่อนำกลับไปแจกที่วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ พระเจ้าสัวเนื้อทองเหลืองที่ไปออกวัดกัลยาณมิตร โดยทั่วไปเนื้อพระจะออกทองเหลืองหรือเนื้อออกเหลือง และพระทั้งหมดไม่มีการจารอักขระด้านหลังทั้งหมด และส่วนที่เหลือหลวงปู่บุญก็แจกที่วัดกลางบางแก้ว โดยจะมีข้อแตกต่างกับที่ไปแจกวัดกัลยาณมิตรอยู่บ้างเล็กน้อยคือเกือบทุกเหรียญของเจ้าสัวเนื้อทองเหลือง ด้านหลังเหรียญจะมีรอยจารตัวเฑาะว์มหาอุด
ส่วนพุทธคุณของเหรียญเจ้าสัวทุกเนื้อ พุทธคุณจะโดดเด่นทางด้านทำมาค้าขายและเมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง และผู้ที่ใช้เหรียญหล่อเจ้าสัวนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าผู้ใช้หรียญเจ้าสัวถ้าค้าขายด้วยความซื่อสัตย์และสุจริตไม่คดโกงจะเจริญรุ่งเรืองและร่ำรวยในที่สุด และเมื่อก่อนเศรษฐีของนครชัยศรีต่างก็ห้อยเหรียญเจ้าสัวทุกคน และทุกคนถ้าทำการค้าเจริญรุ่งเรืองมีทรัพย์สินเพิ่มพูนจนร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐี ทุก ๆ คนภายหลังชาวบ้านต่างเรียกเศรษฐีว่า “ท่านเจ้าสัว” นำหน้าก่อนแล้วค่อยตามชื่อต่อท้ายเสมอ
สภาพพิมพ์เหรียญหล่อเจ้าสัวเนื้อทองเหลือง เหรียญนี้จัดได้ว่าเป็นพระหล่อได้สวยสมบูรณ์ ลุงอุดมถึงเปิดราคาสูงถึง 650,000 บาท ถ้าถามว่าแพงมั้ยก็ต้องบอกเลยว่าไม่แพง เพราะสภาพสวยแบบนี้ราคาเล่นหากันเป็นล้านแล้วหรือเซียนใหญ่รับซื้อเข้าถึงหลักล้านต้นแล้ว ผู้เขียนเองก็ยังชอบเลย เนื้อทองเหลืองแข็งแรงดี คราวก่อนซื้อเนื้อทองเหลืองมา 1 องค์ ไม่มีหู (คือหล่อไม่ติด) ด้านหลังมีลายมือจารของหลวงปู่เพิ่ม เหรียญนั้นเมื่อก่อนยังซื้อมาถึง 120,000 บาท ก็หลายปีแล้ว และเหรียญหล่อเจ้าสัวเนื้อทองเหลืองของลุงอุดมเหรียญนี้ที่ชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือด้านหลังจารอักขระตัวเฑาะว์มหาอุด แต่เหรียญนี้จารโดยหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ซึ่งหลวงปุ่บุญจะจารอักขระตัวจะใหญ่กว่าและจารเรียบร้อยกว่าหลวงปู่เพิ่ม ลายมือจารของหลวงปู่บุญจารจะหายากมาก ๆ ส่วนใหญ่จะเจอะเจอแต่หลวงปู่เพิ่มจารก็เยี่ยมแล้ว และวันนี้ผู้เขียนจะบอกจุดลับของเนื้อทองผสมให้ 2 จุด ซึ่งเนื้อทองผสมมีทุกองค์
- จุดแรกให้ดูเกือบปลายหูขวาพระ ตรงนี้จะมีรูเล็ก ๆ ซึ่งเกิดจากแม่พิมพ์และเป็นแบบนี้ทุกองค์ครับ
- จุดที่สอง บัวแถวล่างเม็ดที่ 2 นับจากทางขวามือพระเข้ามาบัวเม็ดนี้ปลายกลีบที่ชี้ขึ้นบน บัวเม็ดนี้ตรงปลายจะแตกเป็น 2 เส้น หรือจะเรียกว่าแตกเป็น 2 แฉกก็ได้ จุดดูอื่น ๆ ก็เหมือนเนื้อเงินและเนื้อทองแดงทั้งสิ้น
ลุงอุดมเปิดราคาไว้ที่ 650,000 บาท ก็ถือว่า แค่ครึ่งเดียวของราคากลางตอนนี้ ตอนนี้ราคาพุ่งไปล้านกว่าแล้ว ถ้าสภาพสวย ๆ อย่างเช่นองค์นี้ เซียนใหญ่บางท่านยังวิเคราะห์เหรียญเจ้าสัวเนื้อทองเหลืองน่าจะสร้างก่อนเนื้อเงิน หรือเนื้อทองแดงเสียอีก ก็นี่แหละจึงทำให้ราคาค่อยพุ่งขึ้นทุกปี ถ้าถามผู้เขียนว่าเหตุผลนี้พอฟังได้มั้ยก็ตอบว่าพอฟังได้ เพราะเนื้อทองเหลืองกรรมวิธีสร้างจะหล่อแบบโบราณคล้ายกับเหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง พิมพ์ใหญ่ ซึ่งก็หล่อโบราณเช่นกัน ส่วนเหรียญหล่อเจ้าสัวเนื้อเงินกับเนื้อทองแดงจะหล่อเหรียญออกมาก่อนและค่อยเอาห่วงมาเชื่อมใส่ทีหลัง ซึ่งกรรมวิธีการสร้างมันต่างกัน ฉะนั้นผู้เขียนคาดการณ์ล่วงหน้าไว้และอนาคตเหรียญหล่อเจ้าสัวเนื้อทองเหลือง อนาคตราคาต้องพุ่งขึ้นอีกหลายเท่าตัว อย่างน้อยราคาต้องพุ่งไปในระดับเดียวกันกับเนื้อทองแดงก่อนครับ
พระกลีบบัว พิมพ์แขนอ่อน เนื้อดิน จังหวัดสุโขทัย
องค์ที่ 2 พระกลีบบัวแขนอ่อนสุโขทัย เป็นพระเครื่องศิลปะสุโขทัย เมื่อก่อนครั้งแรกเคยแตกกรุที่วัดมหาธาตุมาก่อน ต่อมาปี พ.ศ.2508 ก็มีพระกลีบบัวแขนอ่อน แตกกรุออกมาอีกจากกรุเจดีย์สูงเป็นจำนวนมาก มีทั้งเนื้อชินและเนื้อดิน และต่อมาก็มีขึ้นจากกรุวัดเจดีย์งาม และวัดเขา พระบาทอีกเล็กน้อยไม่มากนัก และปัจจุบันพระกลีบบัวแขนอ่อนกรุเจดีย์สูงก็มีชื่อเสียงมากและเป็นกรุที่นิยมที่สุด และมีพระหมุนเวียนอยู่มากพอควร ส่วนพุทธคุณของพระกลีบบัวแขนอ่อนสุโขทัยทุกกรุที่ขึ้นมา พุทธคุณจะเหมือน ๆ กันจะเด่นทั้งด้านแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี เป็นที่กล่าวขานจากอดีตถึงปัจจุบัน
สำหรับพระกลีบบัวแขนอ่อนสุโขทัยของลุงอุดมองค์นี้ เห็นลุงเคยคุยให้ฟังว่าได้พระองค์นี้มานานมากแล้ว น่าจะเป็น 10 ปีขึ้นไป ก็คือเก็บไว้อย่างดีไม่ให้ใครเห็นเลยก็คือหวงมากว่างั้นเถอะ แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องปล่อยต่อออกไปเช่นกัน สภาพพิมพ์เป็นพระกลีบบัวแขนอ่อนเนื้อดินที่งดงามมาก ๆ เท่าที่เคยเห็นมาเลย และองค์นี้เป็นพระเนื้อดินด้วยซึ่งจะหายากกว่าพระเนื้อชิน และถ้าเจอเนื้อชินสวยกับเนื้อดืนสวยเท่ากันก็ควรต้องเลือกเนื้อดินไว้ก่อน เพราะเนื้อดินจะหาพระสวยสมบูรณ์นี้ยากมาก ทั้งหน้าตา, ปาก, จมูก, หู, นิ้วมือ, นิ้วเท้า ทุกสัดส่วน ติดได้เต็มที่เหมือนเพิ่งกดแม่พิมพ์มาใหม่ ๆ เลย ส่วนพื้นผิวที่มีคราบขาวหรือจะเรียกคราบฝ้าขาวขึ้นเต็มพื้นผิวด้านหน้าโดยเฉพาะตามซอกทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผิวฝ้าขาวพวกนี้น่าจะเกิดจากความเก่าของเนื้อพระ และคราบของปูนขาวเดิม ที่คนนำพระไปฝังกรุในเจดีย์หรือสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นกรุพระ เค้าจะโรยปูนขาวไว้รอบ ๆ และบนพื้นที่จะกองพระไว้ในเจดีย์เพื่อกันพวกมดและแมลงต่าง ๆ ที่จะมากัดกินพระเครื่อง พระที่เหลือรอดปลอดภัยจากแมลงต่าง ๆ พวกนี้จึงยังคงสมบูรณ์อยู่ถึงทุกวันนี้
พระยุคสุโขทัยเป็นพระกรุที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มีอายุถึงปัจจุบันก็ประมาณ 600-700 ปี และพระที่หลงเหลืออยู่ถึงปัจจุบัน และมีความงามเป็นเลิศอย่างพระกลีบบัวแขนอ่อนสุโขทัยองค์นี้ ลุงอุดมจึงหวงมาก ลุงอุดมเปิดราคาที่ 35,000 บาท ก็ถือว่าราคากลาง ๆ ไม่แพง ใครสนใจก็บุกได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
ราหูอมจันทร์ หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง
องค์ที่ 3 ราหูอมจันทร์ หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จังหวัดนครปฐม ถ้าพูดถึงราหูอมจันทร์ หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง สมัยนี้มันเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว และเปลี่ยนไปในทางที่ “มั่ว” มาก ทำให้ผู้คนสับสนอย่างเช่นลายมือจารอักขระด้านหลังราหู ปัจจุบันก็หันมาเล่นลายมือจารตัว เหลี่ยม ๆ ซึ่งสมัยก่อนลายมือพวกนี้ไม่มีใครเล่นเลย ก็รู้ ๆ อยู่ว่าเป็นลายมือจารของอาจารย์ยุคหลัง รวมทั้งลายมือจารของ อ.ปิ่นด้วย แต่พวกเซียนสมัยใหม่กลับเอามาเล่นและยังรับซื้ออีก ใครว่าไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร ถ้ามีก็เอามาขายเค้ารับซื้อแล้วอย่างนี้ใครล่ะจะไม่เชื่อ ทุกคนก็เลยเล่นแบบนี้กันหมด ปัจจุบันก็เลยเล่นกันคนละแบบ บางกลุ่มก็เล่นแบบดั้งเดิม แต่จะมีส่วนน้อยก็จะเล่นลายมือจารลักษณะตัวกลม ๆ เล่นแบบเซียนรุ่นเก่าเค้าเล่นกัน ส่วนเซียนรุ่นใหม่ก็เล่นตัวเหลี่ยม ๆ ซึ่งเป็นยุคหลังและเล่นเป็นลายมือจารยุคหลวงพ่อน้อย และขายเป็นหลวงพ่อน้อยซึ่งจะเป็นกลุ่มใหญ่และมีกำลังซื้อมาก และอนาคตตัวกลม ๆ ก็ไม่มี ใครเล่นจะค่อย ๆ หายไปจากวงการ ส่วนผู้เขียนก็เล่นแบบดั้งเดิมตัวกลม ๆ ส่วนถ้าใครจะส่งมาลงหมวดตอบจดหมาย ถ้าตัวเหลี่ยมแล้วบอกเป็นหลวงพ่อน้อยก็ไม่ต้องส่งมาลงนะก็ถือว่าความเห็นต่างกัน ก็คงไม่ลงให้นะครับ ผู้เขียนก็บอกได้แค่นี้เพราะเซียนรุ่นเก่าก็ล้มหายตายจากไปก็หลายคนแล้ว เซียนเกิดใหม่มันเยอะแยะก็พวกมากลากไปแหละครับ ใครจะไปเชื่อคนกลุ่มน้อยอย่างคนเล่นตามแบบเซียนรุ่นเก่า ผู้เขียนก็ไม่อยากจะเขียนอะไรมากไปกว่านี้ เขียนไปก็ไม่มีคนเชื่อถือ ถ้ามีก็แค่หยิบมือเท่านั้น ส่วนใครจะเชื่อก็มาทางนี้ ใครไม่เชื่อก็แค่อ่านสนุก ๆ ไปแล้วกันครับ
ส่วนราหูของลุงอุดมองค์นี้เป็นราหูยุคเก่าสมัยผู้เขียนเล่นโน้นทั้งศิลปะการแกะและลายมือจาร สมัยผู้เขียนเล่นลายมือจารแบบนี้จะเรียกว่า “ลายมือนิยม” ปัจจุบันลายมือแบบนี้ไม่เห็นแล้ว นาน ๆ ผู้เขียนจะเจอสักอัน เห็นลุงอุดมบอกเคยส่งมาให้ผู้เขียนดูแล้ว ก็น่าจะนานหลายปีแล้ว แต่ผู้เขียนดูจากราหูแล้วทั้งหน้าและหลังก็แท้อยู่แล้ว ส่วนลุงอุดมก็น่าจะเก็บราหูองค์นี้มานานมากแล้ว เพิ่งจะเปิดตัวก็รอบนี้แหละ
สภาพโดยรวมเป็นราหูที่แกะพิมพ์ด้านหน้าได้สวยงามและเรียบร้อยไม่มีเสี้ยนกะลาวิ่งผ่านทำให้ด้อยความงามลงไปทั้งผิวพรรณ ตามซอกและร่องงานแกะมีคราบความเก่าโดยทั่ว ส่วนด้านหลังเป็นลายมือจารเรียกว่า “ลายมือนิยม” องค์นี้เริ่มจารจากจันทรุปราคา และตามด้วยสุริยุปราคา รวม 2 สูตร และถ้าเกิดไปเจอจารอักขระด้านหลังพระราหูแค่สูตรเดียวก็ยิ่งดีไปใหญ่ เพราะเป็นการจารอักขระในฤกษ์พิธีตอนเกิดพอดี เช่น ถ้าวันไหนจะเกิดสุริยุปราคา หลวงพ่อน้อยก็จะให้ลูกศิษย์เตรียมแกะราหูให้พร้อมแกะด้านหน้าให้เรียบร้อย ด้านหลังปล่อยเว้นว่างไว้เรียบ ๆ ไว้จารอักขระพอเริ่มเกิดสุริยุปราคา เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มมืดสนิทแล้ว หลวงพ่อน้อยก็เตรียมตัวจาร พอสุริยุปราคาเริ่มคลาย หลวงพ่อน้อยก็จะเริ่มจารเอาเคล็ดตรงที่เริ่มคลายออก นี่คือเคล็ดลับของหลวงพ่อน้อย (ก็คงจะหมายถึง คลายทุกข์ พอเริ่มสว่าง ก็คงจะหมายถึงให้ชีวิตสว่างไสวแล้ว ความหมายคงประมาณนี้) เมื่อหลวงพ่อน้อยเริ่มจารตอนสุริยุปราคาคลายออกแล้ว ก็เริ่มจาร คำนวณดูแล้ว หลวงพ่อน้อยคงจารอักขระได้ไม่กี่องค์หรอก และหลวงพ่อน้อยก็จารแค่สูตรเดียวด้วย ฉะนั้นราหูที่จารอักขระแค่สูตรเดียว จึงเป็นราหูที่เซียนรุ่นเก่าตามหา และมีค่า มีราคาสูงมาก ส่วนสมัยนี้ผู้คนรวมทั้งเซียนรุ่นใหม่จะรู้มั้ย เรื่องที่เล่าให้ฟังเนี่ยมันคือความรู้ล้วน ๆ ซึ่งมาจากคนรุ่นเก่าทั้งนั้นที่เล่าให้ฟังครับ
ส่วนผู้คนที่มีความต้องการราหู หรือจะเลือกซื้อราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อยช่วงนี้แหละเหมาะสมที่สุด เพราะปัจจุบันเซียนรุ่นใหม่ทั่วไปเล่นเฉพาะราหูยุคหลัง (คำว่ายุคหลัง รวมทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น อ.ปิ่น หรืออาจารย์ยุคต่อ ๆ มาทั้งหมด) พวกเซียนรุ่นใหม่จะเล่นเป็นราหูหลวงพ่อน้อยทั้งหมด และราหูยุคเก่าที่เซียนรุ่นเก่าเล่นกันอยู่ เซียนรุ่นใหม่ก็บอกไม่ใช่แบบที่เล่น ฉะนั้นราคาจึงร่วงลงมาเหมือนราคาพระเก๊เลย จำได้เมื่อราว ๆ ปีก่อน ผู้เขียนไปเลี่ยมพลาสติกในสนาม พอสั่งงานเสร็จก็เดินชมพระเครื่องที่วางขายในสนาม ก็ไปเจอราหูอมจันทร์หลวงพ่อน้อย 1 องค์ ผู้เขียนดูเสร็จมองดูแล้วไม่มีคนอื่นอยู่แถวนั้นก็เลยวาง ทำแลดูไม่สนใจ เจ้าของพระก็รีบบอกเลยว่าไม่แพงนะครับ ผู้เขียนก็ถามต่อว่าไม่แพงนะเท่าไหร่ครับ คนขายบอกว่าเปิด 1,500 บาท ผู้เขียนก็ตกใจเล็กน้อยไม่คิดว่าจะเปิดถูกขนาดนี้ แค่ 1,500 บาท ในใจคิดว่าคนขายต้องตีเก๊แน่นอนเลยเปิดราคาถูกมาก ผู้เขียนก็ลองต่อครั้งแรก 1,000 บาทถ้วน ๆ แล้วกัน เจ้าของรีบตอบตกลงทันที แล้วใส่ถุงซิปล็อคยื่นให้ผู้เขียน ผู้เขียนก็จ่ายตังค์ไป 1 พันบาทแล้วก็ขอบคุณ แล้วก็กลับบ้านทันที แล้วมานั่งส่องให้จุใจไปเลย สภาพราหูที่ได้องค์นี้เป็นการจารอักขระทั้ง 2 สูตร ทั้งสุริยุปราคาและจันทรุปราคา และที่สำคัญเป็นการจารอักขระของหลวงพ่อน้อยตัวจริงเลย (และถ้าถามว่ารู้ได้อย่างไรว่าเป็นลายมือหลวงพ่อน้อย ก็ต้องอธิบายอีกเยอะ และก็คงไม่มีใครจะเชื่ออีกหรอก ก็เลยคิดว่า ผู้เขียนคงไม่พูดเรื่องลายมือหลวงพ่อน้อยอีกแล้ว ใครมีวาสนาที่จะได้เป็นเจ้าของก็แล้วแต่ หลวงพ่อน้อยจะดลใจให้แล้วกัน) ส่วนราคาบอกเลยว่าหลักล้านต้นอยู่แล้ว แต่ถ้าจารอักขระสูตรเดียวก็คูณ 2 ขึ้นไป ผู้เขียนเคยเห็นเศรษฐีซื้อขายกันองค์นึง 10 กว่าล้านบาท ฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อแต่นายหน้ายืนยันจริง ๆ ผู้เขียนก็ดูรูปแล้วก็ศิลป์ธรรมดา ลายมือจารก็ยุคเก่าก็จริงแต่ราคาไม่น่าถึง 10 ล้านบาท แค่หลักแสนก็หรูหราแล้ว ผู้เขียนว่าจะไม่ตอบจดหมายเรื่องราหูเยอะแล้วนะ เขียนไปเขียนมาก็ 2 หน้าแล้ว ก็ควรพอแล้ว
ส่วนราหูอมจันทร์หลวงพ่อน้อยของลุงอุดมองค์นี้ สรุปเป็นราหูของหลวงพ่อน้อยจริง ๆ และเป็นลายมือนิยมสมัยผู้เขียนเล่นโน้น ก็ถือว่าเป็นราหูอมจันทร์ของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง ตัวจริง ซึ่งผู้เขียนจัดให้อยู่ในเกรด A แล้ว ลุงอุดมเปิดราคาที่ 120,000 บาท น่าจะต่อรองได้สัก 1 แสนบาท ก็น่าจะจบนะ ส่วนใครเชื่อผู้เขียนก็ปิดไปได้เลย แต่ถ้าใครไม่เชื่อก็ผ่านได้เลย แต่ขอบอกว่า ราหูสวย ๆ เดิม ๆ ลายมือนิยมแบบนี้ นาน ๆ ทีจะมีโผล่มาเยี่ยมเว็บช้างนะครับ คืออย่าได้ชะล่าใจนะคนที่เป็นนะมี ถ้าเจอปุ๊บปิดเลยแล้วจะเสียใจนะครับ
เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว (ขนาดเล็ก)
องค์ที่ 4 เบี้ยแก้ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว สุดยอดของเบี้ยแก้เมืองไทยเคียงคู่มากับเบี้ยหลวงปู่รอด วัดนายโรง และว่ากันว่า เบี้ยแก้ทั้งสองสำนักสร้างมาจากตำราสายเดียวกัน ส่วนถ้าใครดวงตก หากได้บูชาเบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และพกพานำติดตัวไป จะสามารถพลิกฟื้นชะตากลับขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ และยังมีแคล้วคลาดปลอดภัย และคงกระพันชาตรีหนุนโชคลาภ และทำน้ำมนต์ป้องกันสิ่งอัปมงคล เรียกว่าพุทธคุณครอบจักรวาลเลยทีเดียว
วิธีการสร้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จะคล้าย ๆ กับวัดนายโรง คือเริ่มจากหาหอยเบี้ยที่มีฟัน 32 ซี่ และหลวงปู่บุญจะเรียกปรอทเข้าไปในเบี้ยแล้วอุดปากเบี้ยด้วยชันโรงใต้ดินจากนั้นใช้แผ่นตะกั่วหุ้มรอบตัวเบี้ยแล้วจารอักขระบนแผ่นตะกั่วรอบตัวเบี้ย ได้แก่ ยันต์เฑาะว์มหาอุด เฑาะว์มหาพรหม และยันต์พุทธซ้อน และห่อเบี้ยอีกชั้นด้วยผ้าแดงหรือผ้าดิบ และถักเชือกโดยให้เชือกยึดกับผ้าแดงหรือผ้าดิบ โดยใต้ท้องเบี้ยจะติดห่วงทองแดงมีทั้งม้วนข้างละ 2 รอบ และ 3 รอบก็มี เพื่อสำหรับคล้องบูชาติดตัว แล้วปลุกเสกอีกทีก็เสร็จเรียบร้อย
วันนี้ผู้เขียนจะเล่าประสบการณ์ที่เกิดกับผู้เขียนโดยตรงเลยว่า เบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วนั้นดีจริงขนาดไหน เริ่มต้นผู้เขียนก็เข้านอนตามปกติประมาณ 21.30 น. แล้วผู้เขียนก็ฝันว่า หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วมาเข้าฝันแล้วก็บอกว่า “พรุ่งนี้จะเดินทางให้พกเบี้ยแก้ติดตัวไปด้วยนะ” ผู้เขียนก็ถามกลับว่า แล้วพกเบี้ยตัวไหนล่ะครับ ผมมีตั้งหลายลูกครับ หลวงปู่บุญก็ตอบว่า เบี้ยที่ลงรักแดง ๆ ที่ใต้ท้องเบี้ยมีตะกรุด 1 ดอก เบี้ยลูกนั้นแหละ ผู้เขียนก็ตอบว่าได้ครับ พอรุ่งเช้าตื่นก็จำเรื่องความฝันได้ว่าหลวงปู่บุญสั่งให้พกเบี้ยแก้ติดตัวไปด้วย แต่ในใจผู้เขียนก็คิดว่าเบี้ยลูกใหญ่และก็หนักด้วยก็ไม่อยากจะพกไปหรอก แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะหลวงปู่บุญท่านอุตส่าห์มาเข้าฝันบอกเองเลยนะ สุดท้ายผมก็ไม่กล้าขัดหรอกครับ ก็ไปค้นเบี้ยที่หลวงปู่บุญสั่งออกมา แล้วหาถุง ไหมพรมมาใส่แล้วพกติดตัวไป ช่วงสาย ๆ ก็ขับรถออกจากบ้านพร้อมภรรยา คือพาภรรยาไปทานข้าวทุกวันอาทิตย์ คือเส้นทางจะไปราชบุรี พอไปถึงช่วงห้างแม็คโครก็เห็นแต่ไกลว่าทำไมรถเยอะจัง ทันใดนั้นก็มีเสียงกระซิบที่ข้างหูขวาบอกว่า “เปลี่ยนเลน” เดิมอยู่เลนขวาสุดก็เปลี่ยนมาอยู่ตรงกลาง พอเปลี่ยนปุ๊บคันด้านหน้ารถผู้เขียนก็ชนกันข้างหน้า ตึ้ง, ตั้ง, ตั้ง ต่อไปอีก 3 คันรวด ผมเลยเข้าซ้ายสุดแล้วจอดข้างทาง และมองอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในใจกึคิดว่าต้องขอขอบคุณหลวงปู่บุญที่มาเข้าฝันบอกและให้พกเบี้ยแก้ของท่านมาด้วย และมากระซิบข้างหูขวาบอกให้เปลี่ยนเลนอีก เรื่องนี้เล่ากี่ครั้งก็เหมือนเดิมทุกครั้งเพราะจำฝังใจมาตลอด และเบี้ยแก้หลวงปู่บุญตัวนั้นก็ไปเลี่ยมแขวนไว้ที่หูกางเกงตลอดที่ขับรถเลยครับ หลังจากวันที่รอดจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ผู้เขียนก็ซื้อขนมไปกราบหลวงปู่บุญและหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว เพื่อเป็นการขอบคุณหลวงปู่บุญที่มาช่วยเตือน และมากระซิบที่ข้างหูให้เปลี่ยนเลน ระยะห่างแค่ 1.50-2.00 เมตร+ความเร็ว และข้างหน้าเบรคกระทันหันขนาดนั้น ผมว่าน่าจะเบรกไม่อยู่ น่าจะชนท้ายเป็นคันที่ 5 ปกติผู้เขียนก็ไม่ได้พกเบี้ยแก้หรอกครับ เพราะมันหนักและลูกใหญ่ และต่อจากนี้ก็จะเหน็บแขวนไว้ที่หูกางเกงตลอดทุก ๆ การขับรถ ส่วนอีกลูกเป็นลูกเล็ก แต่เป็นของหลวงปู่รอด วัดนายโรง ก็ใส่ไว้ในกระเป๋าพกทีเดียวสองลูกเลยครับ
สำหรับเบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ขนาดเล็กลูกนี้ เหมาะสำหรับผู้หญิงหรือเด็ก เพราะขนาดเล็กมาก แค่กว้าง 1.5 ซม. ยาว 2.1 ซม. สูงจากห่วงถึงหลังเบี้ยแค่ 2 ซม. และเบี้ยลูกนี้ลงรักแดง (แบบเดียวกับเบี้ยของผู้เขียนที่เกิดประสบการณ์เลย) ถักเชือกลายมาตรฐานเรียบ ๆ ด้านล่างมีห่วงบิด 3 รอบ ปกติจะเจอแต่บิด 2 รอบ แต่ห่วง 3 รอบ ของหลวงปู่บุญก็มีแน่นอนและมีน้อยมากไม่ค่อยเจอ และเบี้ยลูกนี้ได้ปิดทองเก่าด้วย ดูแล้วสวยงามสุดคลาสสิคเลย และสุดท้ายให้ดูทรงเบี้ย เบี้ยของหลวงปู่บุญเท่าที่สังเกตจะไม่ค่อยยาวจะแลดูแคบ ๆ หลังเบี้ยจะโด่ง ๆ ไม่แบนแบบหลวงปู่รอด วัดนายโรง ผู้เขียนเห็นเบี้ยตัวนี้แล้วชอบมาก ตั้งแต่รอดพ้นจากอุบัติเหตุครั้งนั้นก็จะชอบพวกเบี้ยเป็นพิเศษ แต่จะเลือกเก็บเบี้ยระดับตำนานพวกยุคเก่า ๆ เท่านั้น ก็จะมีเบี้ยหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว, หลวงปู่รอด วัดนายโรง ทั้งสองสำนักนี้จะมากที่สุด นอกนั้นก็จะมีรอง ๆ ไปก็จะมีหลวงพ่อภักดิ์ วัดโบสถ์, หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน ก็มีเก็บบ้างอย่างละลูก
เบี้ยหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วลูกเล็กลูกนี้ ลุงอุดมเปิดราคาไว้ที่ 85,000 บาท ก็ถือว่าถูกมาก อ๋อลืมบอกไป ลุงอุดมบอกว่าเบี้ยลูกนี้ได้จากคนนครปฐมที่ย้ายไปอยู่เพชรบุรีครับ ลุงอุดมขอแบ่งมา เห็นว่าสวยน่ารักดีครับ ใครสนใจต่อรองนิดหน่อยก็น่าจะจบครับ ถ้าไม่จบเดี๋ยวผู้เขียนก็คงจะเอาเอง เพราะเบี้ยลูกเล็ก ๆ ดูง่าย ๆ ไม่ได้เจอง่าย ๆ นะครับ
ช้าง–วัดห้วย
082-5699162
ID Line Changwathuay