หมวดตอบจดหมาย

สวัสดีครับ...อ.ช้าง–วัดห้วย

            เมื่อก่อนผมเคยโทรคุยและสอบถามถึงพระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ลงหนังสือพระ “คเณศ์พรพระเครื่อง” ก็ลองสอบถาม อ.ช้าง แล้ว อ.ช้างก็บอกว่าแท้ ภายหลังผมติดต่อขอซื้อเจ้าของพระมาในราคาเกือบ 2 ล้านบาท ผมก็ใส่มาถึงทุกวันนี้ก็หลายปีแล้ว วันนี้ผมก็เอามาลงขายด้วยครับ เป็นบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ทรงลึก และชัดเจนดี ผมเปิดราคาที่ 2,500,000 บาท องค์ที่ 2 พระปิดตา วัดห้วยจระเข้ พิมพ์สะดือจุ่น เลี่ยมพลาสติกเก่า เปิดหน้าและเปิดหลัง ถ้าผมจำไม่ผิดผมเคยเห็นลงในหมวดตอบจดหมายของ อ.ช้าง มาแล้วครั้งหนึ่ง น่าจะใช่นะครับ และผมก็ลองค้นหาอยู่นานแต่ก็หาไม่เจอ พระหมวดตอบจดหมายข้อมูลมันเยอะมากขนาดถามสุ่มไปตั้งหลายแบบก็ยังหาไม่เจอ ก็เลยส่งรูปมาฝาก อ.ช้าง ปล่อยก็แล้วกัน ผมเปิดราคาหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ พิมพ์สะดือจุ่น เพียง 1,500,000 บาท องค์ที่ 3 พระปิดตาขรัวเฒ่าคลุมโปง วัดท่าพระ สภาพใช้สึกเก๋ากึ๊ก เลยเปิดราคาที่ 25,000 บาท เป็นเนื้อตะกั่วผสมปรอท ปิดตาองค์นี้ผมใส่มาตั้งแต่ยังหนุ่ม เนื้อพระจึงมีคราบความเก่าและเนื้อจัด คราบต่าง ๆ ผมก็ปล่อยทิ้งไว้แบบเดิมไม่ได้ล้างทำความสะอาด องค์ที่ 4 ลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นลูกอมขนาดเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย แล้วถักเชือกคล้องห่วงคู่ด้านบน ลูกอมนี้ผมกับน้องชายสลับกันใช้ เวลาจะออกนอกบ้านก็จะเหน็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อ ผมกับน้องชายปรึกษากันว่า จะเปิดราคาที่ 35,000 บาท องค์ที่ 5 เสือหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ใต้ฐานจารอักขระไว้ 1 ตัว และเสือตัวนี้ให้หลายคนดูแล้วว่าใช้เขี้ยวเสือแกะ ส่วนใหญ่เสือหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จะแกะด้วยงาช้าง และเปิดราคาที่ 55,000 บาท ส่วนชิ้นสุดท้ายเพื่อนฝากมาลงปิดท้ายแค่ชิ้นเดียว เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เปิดราคาที่ 6,500,000 บาท ทั้งหมดก็ 5-6 องค์ ก็ฝาก อ.ช้าง ด้วยครับ ถ้าองค์ไหนแค่ไม่ถูกใจ อ.ช้าง ก็คัดออกแล้วกัน ผมกับเพื่อน ๆ ก็ช่วย ๆ กันดูให้ดี และไม่อยากให้ผิดพลาด ยังไง อ.ช้าง ก็ช่วยลงในหมวดตอบจดหมายให้ด้วยครับ

ขอแสดงความนับถือและขอบคุณทุกความกรุณา

ธีรเดช กรุงเทพฯ

 ตอบ คุณธีรเดช กรุงเทพฯ

พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ใหญ่

และหนังสือ “คเณศ์พร พระเครื่อง” ที่ลงพระสมเด็จองค์นี้

            ก่อนอื่นขอบอกเลยว่าจำไม่ได้หรอก คนโทรมาก็เยอะส่วนใหญ่ก็จะส่งภาพ พอให้ดูแล้วส่วนมากจะไม่ค่อยกลับมาอีก นอกจากพระที่ให้ดูเป็นพระแท้ถ้าจะขายและราคาไม่แพงนักก็จะรับฝากขายให้

            องค์ที่ 1 เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ สภาพค่อนข้างสวย หลักการพิจารณาก็คล้าย ๆ กับพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ แต่องค์นี้จริง ๆ แล้วผู้เขียนดูเป็นวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 2 อกวี แต่ในรูปที่ลงหนังสือคเณศ์พรที่ส่งมาจะเรียกเป็นบางขุนพรหมก็แล้วแต่จะเรียก ก็เพราะคุณธีรเดชเปิดราคาแค่ 2,500,000 บาท ถ้าเรียกเป็นบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ก็ต้องเรียก “พิมพ์ลึก” ราคาประเมินก็ร่วม 10 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ราคาก็หลายสิบล้านก็เลือกเอาครับ แต่เมื่อมองดูผิวพรรณแล้ว จะเห็นคราบกรุเป็นวง ๆ ช่วงบน ๆ องค์พระ ในวงการระบุไว้ว่า ถ้าพื้นผิวพระมีคราบกรุเพียงเล็กน้อยให้ตีเป็นพระบางขุนพรหมทั้งสิ้น จะได้ไม่ทะเลาะกันครับ

            สภาพพิมพ์เป็นบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ลึก พิมพ์ทรงถูกต้องทุกตำแหน่ง ให้ดูซุ้มครอบแก้วทั้งหมดยกเว้นเส้นด้านล่าง ซุ้มครอบแก้วจะหดตัวคตไปคตมา ส่วนพื้นผิวก็มีคราบกรุบาง ๆ บ้าง ตรงข้างแก้มซ้ายพระ พื้นผิวทั่วไปออกขาวอมเหลืองเล็กน้อย ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์พระสวยเยี่ยมแล้ว พระบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ ด้านหน้าก็ควรปล่อยไว้แบบนี้แหละไม่ต้องไปเก็บขี้กรุให้บาง ส่วนด้านหลังเป็นแบบหลังสังขยา ทั่วพื้นแผ่นหลังทำให้ง่ายต่อการพิจารณา ผู้เขียนได้เข้าไปอ่านข้อความที่บรรณาธิการเขียนไว้ว่า “พื้นผิวด้านหน้าปรากฏร่องรอยล้างผิวรักออกไป” ก็เลยสอบถามคุณธีรเดชว่าในหนังสือเขียนว่าล้างรักออกไปเหรอ คุณธีรเดชก็บอกว่าก็เคยถามเจ้าของเดิมเค้าแล้วว่า พระองค์นี้ล้างรักออกเหรอครับ เจ้าของเดิมบอกว่าพระสมเด็จองค์นี้ก็แค่มีคราบกรุติดตรงช่วงบนหน่อยเดียวและไม่ได้ลงรักครับ และพระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่องค์นี้ได้ลงหนังสือคเณศ์พรอีกด้วยก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ และคุณธีรเดชได้ส่งรูปที่ลงหนังสือคเณศ์พรมาลงด้วย ซึ่งจะตอกย้ำถึงความเป็นพระแท้ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งให้ด้วย คุณธีรเดชเปิดราคาเพียงแค่ 2,500,000 บาท ก็ถือว่าถูกมาก เพราะปัจจุบันบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ราคาก็กว่า 10 ล้านบาทไปนานแล้ว และคุณธีรเดชก็ซื้อมาเกือบ 2 ล้านบาท เปิดราคาขนาดนี้ถือว่าแบ่งปันให้เอาไปใช้แล้วครับ ใครไวกว่าก็เอาไปครับ

พระปิดตา หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้

พิมพ์สะดือจุ่น เลี่ยมพลาสติกเก่า

            องค์ที่ 2 พระปิดตา วัดห้วยจระเข้ พิมพ์สะดือจุ่น เลี่ยมพลาสติกเปิดหน้าเปิดหลัง คือเจ้าของเดิมเลี่ยมพลาสติกให้หนา ให้พระปิดตาผลุบอยู่ตรงกลาง ใส่อย่างไงก็ไม่สึกหรอ และคุณธีรเดชยังจำได้เมื่อก่อนหลายปีแล้วเคยมีเลี่ยมพลาสติกลักษณะนี้มาลงในหมวดตอบจดหมายนี้ แต่องค์นั้นจะเป็นพิมพ์หูกระต่าย ส่วนราคาจำไม่ได้แล้ว ก็ไม่รู้เจ้าของขายไปแล้วหรือยัง แต่ผมว่า องค์สะดือจุ่นองค์นี้สวยสมบูรณ์กว่านะครับ และเก่ามากซะด้วย ผู้เขียนเห็นรูปครั้งแรกก็บอกเลยว่าแท้และสวยแชมป์มากเลย ก็รีบดูราคาก็เปิดราคาแค่ 1,500,000 บาท ก็ถือว่าถูก ปิดตาสะดือจุ่นองค์นี้นะ ควรรื้อพลาสติกออก ด้านหลังล้างสนิมเขียวออก แค่นั้นก็พอ ก็สวยระดับ 5 ดาวแล้วครับ องค์นี้จับแต่งตัวใส่ตลับเพชรซะหน่อย เปิดราคา 10-12 ล้านบาท รับรองเศรษฐีแย่งกันซื้อเลยทีเดียว

            สภาพพิมพ์เป็นพระปิดตาหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ ที่สวยงามสง่า และงดงามมาก ๆ องค์หนึ่งของวงการเลยทีเดียว ทั้งพิมพ์ทรง ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถูกต้องทั้งหมดให้สังเกตนิ้วมือที่แต่ง ช่างจะแต่งด้วยตะไบ แท่งเป็นรูปนิ้วสั้น ๆ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ส่วนข้อศอกพระทั้งสองข้าง จะต้องเป็นวงโค้งไม่หักศอกเป็นมุม ส่วนข้อศอกซ้ายพระจะยกสูงกว่าข้อศอกขวาพระเล็กน้อย ตามซอกมีความเก่าที่เป็นธรรมชาติคือติดจากฝุ่นผง, ขี้เหงื่อ, ขี้ไคล ทับถมกันมาเป็นระยะเวลานาน ไม่เหมือนของบางคน เอาดินลูกรังแดง ๆ ผสมน้ำแล้วเอามาป้ายตามซอก ดูแล้วยังไงมันก็ผิดธรรมชาติ แค่ 5 นาทีก็เสร็จ แต่ดีนะพระปิดตาองค์นั้นยังเป็นพระแท้ ส่วนด้านหลังพระปิดตาพิมพ์สะดือจุ่นองค์นี้ยิ่งธรรมชาติสุด ๆ ตรงกลางหลังและหลังผิวพระเป็นส่วนที่สูงเลยขอบพลาสติกจึงถูกสัมผัสมากที่สุด จะแลดูเงา ๆ ส่วนต่ำลงไปก็จะเกิดสนิมเขียว เนื่องจากโดนเหงื่อสัมผัสทุกวัน ส่วนลายมือจารอักขระทั้งด้านหน้าและด้านหลังยังชัดเจน เห็นคุณธีรเดชบอกเจ้าของเดิมเคยใส่มาระยะหนึ่ง พอพระมีราคาแพงก็ถอดเก็บเพื่อความปลอดภัย ภายหลังก็แบ่งพระปิดตาองค์นี้ให้คุณธีรเดชไปใช้ คุณธีรเดชก็เปิดราคาพระปิดตาวัดห้วยจระเข้องค์นี้ที่ 1,500,000 บาท เท่านั้นก็ถือว่าถูกมาก องค์นี้ถ้าลงในหมวดตอบจดหมายก็น่าจะจบเร็ว เพราะพระปิดตาวัดห้วยองค์นี้นั้นสวยมาก ลายมือจารยังอยู่ครบ และเก่าแบบธรรมชาติ เจ้าของเดิมใส่แค่แป๊ปเดียวแล้วก็เก็บขึ้น ก็ถือว่าสวยสมราคาแล้วครับ

            ผู้เขียนมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง 1 เรื่องแล้วกัน เมื่อก่อนผู้เขียนขายปิดตาวัดห้วยจระเข้ พิมพ์       หูกระต่ายไป 1 องค์ รู้สึกแขนซ้ายพระกะเทาะไปนิดนึงด้วยนะ เจ้าของเดิมไปล้างทำความสะอาด ทำให้ตามซอกไม่มีความเก่า ผู้เขียนก็แจ้งไปยังเศรษฐีท่านนึง ก็เอาพระปิดตาไปส่งที่บ้านเศรษฐี สมัยนั้นก็ 20 กว่าปีแล้ว ตอนนั้นขายไป 2 แสนบาท และก่อนจ่ายเงินผู้เขียนก็บอกว่า เสี่ยเอาไปลองยิงก่อนมั้ย ถ้ายิงไม่ออกค่อยจ่ายเงิน เศรษฐีได้ยินเช่นนั้น ก็บอกว่าถ้าเฮียมั่นใจขนาดนั้นก็ไม่ต้องลองหรอก ก็โอนเงินให้ไปใช้ได้เลย ใส่ไปได้แค่อาทิตย์เดียว เศรษฐีก็โทรมาบอกว่ายังให้ลองยิงได้อีกหรือเปล่า ผู้เขียนก็บอกว่าถ้ายิงลองยิงได้เสมอ และบอกต่อว่า ถ้ายิงออกพระแตกกระจายก็ช่วยหยิบเศษพระที่แตกกระจายมาแลกเงินคืนด้วยนะครับ เศรษฐีก็หายไป 1 อาทิตย์ ก็ให้ลูกน้องเอาพระ   ปิดตาวัดห้วยที่เศรษฐีซื้อเก็บสะสมไว้มาให้ผู้เขียนดู ผู้เขียนก็ตอบกลับว่ามาได้เลยอยู่บ้านพอดี ลูกน้องเศรษฐีก็ขับรถมาจอดหน้าบ้านผู้เขียนก็เข้าไปนั่งหน้ารถคู่กับคนขับ ลูกน้องเศรษฐีก็ส่งพระปิดตาวัดห้วยให้ดูโดยแบมือพระก็กลิ้งอยู่ในมือผู้เขียนก็ตอบทันทีว่า เก๊ห่าง ลูกน้องเศรษฐีก็ถามว่าเฮียไม่ต้องส่องกล้องเลยเหรอ ผู้ขียนก็บอกว่าขนาดองค์สั้น ๆ แบบนี้ทรงก็ไม่ถูกแล้ว ก็เก๊ห่างครับ และลูกน้องเสี่ยก็บอกว่ายังมีอีกองค์แขวนอยู่บนคอนี่แหละ เดี๋ยวปลดให้ดู ผู้เขียนก็บอกว่าไม่ต้องปลดออกมาก็ได้ แค่ดูไกล ๆ แกว่งไปแกว่งมาบนหน้าอก ใส่สร้อยสั้น ๆ แค่นี้ก็เก๊แล้วเหมือนกัน ก็คือเซียนรวมหัวกันเอาพระไปขายให้เสี่ย แล้วเตี๊ยมกันทั้งคนขายคนดูพระให้ขายได้แบ่งกันถ้วนหน้า แบบนี้เค้าเรียกว่าเล่นเป็นทีมได้น้อยหน่อยแต่ได้เรื่อย ๆ ผู้เขียนก็ได้โอกาสก็เลยสอบถามลูกน้องเศรษฐีว่า เสี่ยได้เอาพระปิดตาวัดห้วยที่ซื้อจากผมไปลองแล้วหรือยัง ลูกน้องเศรษฐีก็บอกว่าไปลองแล้วครับและยิงไม่ออกด้วยครับ และพวกเซียนที่สวดว่าเก๊ล้วนแต่เป็นเซียนใหญ่ของจังหวัดทั้งนั้นเลยครับ โดนเฮียด่าเละเลยครับ

            ผู้เขียนกว่าจะมาถึงวันนี้ได้ และถ้าไม่แน่จริงก็ไม่กล้าใช้ชื่อ ช้าง-วัดห้วย โดยมีคำว่าวัดห้วยตามหลัง นั่นก็แสดงว่าต้องแน่นอนพระชนิดนั้น ๆ ผู้เขียนทั้งลองยิงและทดสอบมามากจึงค่อยสรุปได้ว่าแบบไหนพิมพ์ไหนแท้ และแบบไหนเก๊ ขนาดลายมือจารอักขระ ผู้เขียนก็เขียนได้ทั้งองค์และเขียนได้ถูกต้องว่าขึ้นทางไหนและลงทางไหน มันไม่ง่ายเลยนะครับ เซียนทั่วไปพอเจอวัดห้วยก็สวดก่อนว่าเก๊เพราะโอกาสแท้มันมีทางเป็นไปได้น้อยมาก ๆ แค่นั้นเองครับ

            สรุปพระปิดตาวัดห้วยจระเข้ พิมพ์สะดือจุ่นองค์นี้ เปิดราคาแค่ 1,500,000 บาท เป็นพระแท้ที่ดูง่าย ลายมือจารถูกต้อง ความเก่าได้ และบล็อคนี้ผู้เขียนเคยไปลองยิงแล้วไม่ออกด้วยครับ เชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้ ส่วนใหญ่เช่าองค์นี้ไปรับรองไม่ผิดหวัง พระปิดตาวัดห้วยสำหรับผู้เขียนมันดูง่าย มาก ๆ ครับ ส่วนวันหลังก็จะมีเรื่องเล่าอีก 1 เรื่อง แล้วค่อยติดตามกันครับ

พระปิดตา ขรัวเฒ่า คลุมโปง วัดท่าพระ

            องค์ที่ 3 พระปิดตาขรัวเฒ่า คลุมโปง วัดท่าพระ ท่านเป็นพระยุคเก่าเมื่อ 130 ปีล่วงมาแล้ว ขรัวเฒ่าคลุมโปง ท่านสำเร็จวิชา “โสระตะ” คือวิชาที่สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ขรัวเฒ่าคลุมโปงท่านสร้างพระปิดตาคลุมโปงช่วงประมาณปี 2435 แล้วนำมาลงกรุที่ฐานชุกชีที่วัดท่าพระ พระปิดตาของท่านมีลักษณะนั่งคลุมโปงเป็นเนื้อตะกั่วผสมปรอท เพราะท่านสำเร็จวิชาปรอท เมื่อเอากล้องส่องดูจะเห็นปรอทเป็นเม็ดนูน ๆ และปรากฏสนิมไขและสนิมแดงก็มี เนื่องจากอายุพระกว่า 100 ปี และผ่านการลงกรุมานานในวงการพระจึงถือว่าพระปิดตาขรัวเฒ่าคลุมโปง เป็นพระเนื้อตะกั่วผสมปรอทยุคต้น ๆ ของวงการเลยทีเดียว

            ส่วนพุทธคุณจะเด่นทางด้านมหาอุดและคงกระพันชาตรี พื้นที่ปรากฏมาอย่างยาวนาน ทั้งทดสอบใส่ปากปลาช่อนแล้วฟัน ปรากฏว่าฟันไม่เข้า และยังมีเรื่องเล่าขานมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่องมาตลอดจนถึงทุกวันนี้

            สภาพพิมพ์ เป็นพระปิดตาขนาดเล็กสูงประมาณข้อนิ้วก้อยข้อบน สูงประมาณ 2 ซม. สภาพสึกแต่ยังเห็นสภาพพิมพ์ทรงได้อย่างชัดเจน ตามซอกมีคตราบไขมีคราบฝุ่นผง คราบสนิมแดงบาง ๆ ด้านหลังช่วงกลางจะนูนสูงขิ้นมาเล็กน้อย ด้านข้างจะเป็นแอ่งทั้ง 2 ข้าง ปิดตาคลุมโปงองค์นี้ถือว่าดูง่ายที่สุดแล้ว และหายากมาก ๆ ในเวลานี้ พระอายุร้อยกว่าปี คุณธีรเดชเปิดราคาที่ 25,000 บาท ก็ถือว่าถูกสุดแล้ว ใครไวกว่าก็คว้าไปครับ

ลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม

          องค์ที่ 4 ลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ของท่านเป็น 1 ในเบญจภาคีลูกอมของเมืองไทยเลยทีเดียว นับว่าเป็นเครื่องรางประเภทลูกอมที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง และด้วยประสบการณ์และความหายาก จำนวนสร้างไม่มากนัก มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย

            ลูกอมมหากัณฑ์ของหลวงพ่อคง สร้างจากเนื้อผงสีขาวผสมดินสอพอง ที่หลวงพ่อคงเขียนจารลงแผ่นชนวนแล้วลบ แล้วเก็บรวบรวมไว้นำมาคลุกเคล้าปั้นเป็นลูกอมและที่สำคัญ หลวงพ่อคง จะจารอักขระตัว “นะ” ไว้ตัวเดียว บนกระดาษสา แล้วนำเนื้อผงที่เตรียมไว้ข้างต้นมาหุ้มแล้วปั้นเป็นลูกอม และลูกอมที่ท่านสร้างเสร็จและจะมอบให้เป็นเนื้อผงขาวนวล ๆ ธรรมดานี่แหละคนที่ได้รับลูกอมก็ใช้อมในปากแบบนั้นเลย และก็มีบางคนไปถักเชือกมีห่วงไว้ห้อยด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นห่วงเดี่ยวซะมากกว่า แล้วลงรักปิดทองเป็นอันเสร็จสิ้น

            เรื่องพุทธคุณ ลูกอมมหากัณฑ์ของท่านจะศักดิ์สิทธิ์ทางคงกะพันชาตรี เป็นหนึ่งของมีคมก็ไม่ได้กินเลือดผู้ที่ห้อยลูกอมมหากัณฑ์ แม้แต่สุนัขก็ยังกัดไม่เข้าเลย คาถาบูชาลูกอมมหากัณฑ์      นะโม 3 จบ พุทธังเพชชะคงคัง ธัมมังเพชชะคงคัง สังคังเพชชะคงคัง

            ส่วนลูกอมมหากัณฑ์ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อมเม็ดนี้ ถือว่าสวยสมบูรณ์ ขนาดประมาณ 1.5 ซม. แล้วถักเชือกหุ้ม แล้วใส่ห่วงทองแดงคู่ด้านบนและลงชาดแดง และลงรักทับอีกที แล้วปิดทอง สภาพโดยรวมถือว่าสมบูรณ์มาก แม้แต่เชือกที่ถักหุ้มลูกอมนี้ยังแค่สึกเล็กน้อย แค่ถลอก ๆ    นิด ๆ หน่อย ๆ แสดงว่าทางเจ้าของนี้ดูแลรักษาได้เป็นอย่างดี ให้ดูทองเก่าที่ปิดทับมาเป็นร้อยปี ทองจะสุกปลั่ง ผู้เขียนว่าการเลือกเช่าพวกลูกอม ถ้าเป็นแบบเปลือย ๆ ผู้เขียนว่าจะดูยากเพราะเวลาเก่า หรือคนทำให้เก่าก็จะดูคล้ายกัน แต่ถ้าถักเชือกก็จะดูง่ายกว่า ก็มีที่ดูอีกหลายอย่างเช่น ดูรัก         ดูทองจะทำให้ดูง่ายขึ้น และกล้าซื้อ กล้าเช่าในที่สุดครับ คุณธีรเดช เปิดราคาไว้ที่ 35,000 บาท ก็ถือว่ารับได้ เพราะลูกอมนี้หายากมาก ๆ และสวยสุดขนาดนี้ 50,000 บาท ยังไม่แพงเลย

เขี้ยวเสือแกะ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

            องค์ที่ 5 หลวงปู่ยิ้ม จันทโชติ เป็นพระเถราจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว หลวงปู่ยิ้มท่านเป็นเกจิอาจารย์ยุคเก่าที่มีผู้นับถือเลื่อมใสศรัทธามาก ท่านสร้างพระปิดตาได้เข้มขลังนัก และปิดตาของท่านยังจัดอยู่ในทำเนียบพระเบญจปิดตาเนื้อผงด้วย ส่วนเครื่องรางของหลวงปู่ยิ้มก็เยี่ยมยอดไม่แพ้กัน ได้แก่ ตะกรุดโลกธาตุอันลือลั่น ซึ่งต่อมาได้ถ่ายทอดวิชาสู่ลูกศิษย์รุ่นต่อมา และยังมีเครื่องรางอีกอย่างที่ได้รับความนิยมสูงสุด และจะกล่าวถึงวันนี้ก็คือ เขี้ยวเสือแกะซึ่งโด่งดังมากว่า 100 ปีแล้ว เสือแกะของท่านจะแกะจากเขี้ยวเสือจริง ๆ และแจกจ่ายไปให้ผู้ที่ต้องการนำไปใช้ติดตัว แต่ส่วนใหญ่จะแจกเฉพาะศิษย์ใกล้ชิด เสือหลวงปู่ยิ้มจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร เช่นจะแกะในลักษณะยืนหน้าเชิด ๆ และหางพาดหลัง และใต้ฐานจะมีรอยจารอักขระด้วย ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเขี้ยวเสือแกะหลวงปู่ยิ้มเลย เสือหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จะมีพุทธคุณ เด่นทางด้านมหาอุด คงกะพัน และมหาอำนาจ เป็นที่กริ่งเกรงของคนทั่วไป

            สำหรับเขี้ยวเสือแกะ หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ตัวนี้ขนาดสูง 2 ซม. ฐานกว้าง 1.4 ซม. บอกตรง ๆ เลยว่าสวยงามมาก โดยเฉพาะลวดลายบริเวณตัวเสือ แกะลวดลายของเสือได้พลิ้วมาก หน้าตาแกะเป็นเสืออ้าปาก และแยกเขี้ยวคำราม และเอกลักษณ์ที่สำคัญของเขี้ยวเสือ หลวงปู่ยิ้ม คือช่างที่แกะเสือจะแกะหางพาดหลังเสมอ ส่วนเสือตัวนี้แกะจากเขี้ยวเสือโดยตรงเลย โดยสังเกตจากรูปทรง ถ้าใช้เขี้ยวเสือแกะ ลักษณะเสือที่แกะออกมา เสือจะยืนค่อนข้างตรง ๆ ยืดอกเล็กน้อย เนื่องจากเขี้ยวเสือขนาดไม่ใหญ่นัก ไม่เหมือนเนื้องาช้าง มีเนื้อที่เยอะจะแกะแบบไหนก็ได้ เช่น ถ้าเป็นเสือจะแกะยืดตัวไปข้างหน้าอย่างชัดเจน และอีกอย่างที่สำคัญ ใต้ฐานของเสือตัวนี้มีจารอักขระใต้ฐาน 1 ตัว แต่ถ้าแกะด้วยงาช้าง จะไม่มีจารอักขระใต้ฐานครับ ส่วนผิวพรรณของเขี้ยวเสือตัวนี้ค่อนข้างจะจัดจ้าน ตามร่องตามซอกจะมีคราบความเก่า ถือว่าเป็นเสือเขี้ยวแกะที่มีความสวยสมบูรณ์ เนื้อจัดจ้าน ง่ายต่อการพิจารณา คุณธีรเดชเปิดราคาเขี้ยวเสือแกะตัวนี้ที่ 55,000 บาท ถือว่าถูก เมื่อหลายปีก่อน คุณทรงกลด สมุทรสาคร ที่เอาเสือมาลงหมวดตอบจดหมาย เปิดเสืองาแกะที่ 120,000 บาท แต่เสือตัวนี้แกะด้วยเขี้ยวเสือแกะนะครับ เปิดราคาแค่ 55,000 บาท ราคาแค่ครึ่งเดียวก็บอกได้ว่า ใครไวกว่าก็คว้าไปได้เลยครับ

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 2 อกวี

            องค์สุดท้ายของรอบนี้เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 2 อกวี เป็นพระของเพื่อนคุณธีรเดชฝากมาแค่องค์เดียว แต่บอกเลยว่าพระสมเด็จองค์นี้ดูแล้วไม่ธรรมดาเลยครับ เห็นเจ้าของพระคุยให้คุณธีรเดชฟังว่า สมัยก่อนมีคนมาให้ถึง 4 ล้านบาท แต่เพื่อนคุณธีรเดชปฏิเสธไม่ปล่อย ปัจจุบันเพื่อนคุณธีรเดชเริ่มมีอายุและมีความคิดที่จะปล่อยออกก็เลยฝากมาลงหมวดตอบจดหมายแค่องค์เดียวและเปิดราคาไว้ที่ 6,500,000 บาท ถ้าถามว่าสภาพแบบนี้ถือว่าแพงมั้ย ก็ตอบทันทีเลยว่าไม่แพง สภาพแบบนี้ก็น่าจะ 10 กว่าล้านบาทขึ้นไปครับ ถึงจะเหมาะสมราคา

            สภาพพิมพ์เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 2 อกวี ดูแล้วพิมพ์ทรงถูกต้องทุกจุด ผิวพรรณออกขาวอมเหลือง พระสมเด็จองค์นี้ถือว่าเป็นพระที่ดูง่าย พื้นผิวทั่วไป ดูแล้วเหมือนมีรอยเหี่ยวย่น, รอยยุบ, รอยแยก และหดตัวตามธรรมชาติ เนื้อพระส่วนใหญ่แลดูเก่าสมอายุกว่าร้อยปี และเนื้อแบบนี้แหละที่เซียนจะชื่นชอบเป็นพิเศษ เจ้าของพระถึงเคยคุยผ่านคุณธีรเดชว่าเมื่อก่อนเคยมีคนมาให้ราคาถึง 4 ล้านบาท ผู้เขียนก็ว่าน่าจะจริง เพราะดูจากพระแล้วก็แท้และพระแบบนี้ขายได้ 10 กว่าล้านบาท และเซียนก็ซื้อไม่แพง 4-5 ล้านบาท ก็น่าจะเป็นไปได้ครับ

            ส่วนด้านหลังเป็นแบบหลังกระดาน เป็นรอยหลังกระดาน 3 เส้น ตรงกลางหลัง 2 เส้น ด้านล่างอีก 1 เส้น โดยรวมทั่วไป พระสมเด็จองค์นี้เป็นพระใช้งานจริง ๆ ผิวจัดจ้าน ด้านหลังมีสึกเล็กน้อย จะหลงเหลือแค่รอยหลังกระดาน กดแค่ 3 เส้น ที่ลึกลงไปในเนื้อพระ ผู้เขียนบอกตรง ๆ เลยว่า พระสมเด็จองค์นี้น่าจะเปิดราคาสัก 10 กว่าล้านบาท ก็ไม่มีใครเค้าว่าแพงหรอก นี่เจ้าของพระเปิดราคาแค่ 6,500,000 บาท ก็ถือว่าถูกสุด ๆ แล้ว ตอนนี้จะมีพวกเซียนอยู่บางกลุ่ม จะเล่นพระเนื้อนี้ สไตล์นี้คือไม่ต้องสวยมาก ๆ พิมพ์ได้ เนื้อจัด ราคาไม่แพง แค่นี้ก็ขายได้แล้ว

            สรุปเลยว่า พระของเพื่อนคุณธีรเดช เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 2 อกวี พิมพ์ทรงถูกต้อง เนื้อหามาตรฐานนิยมสุด ๆ ราคาเปิดที่ 6,500,000 บาท ถือว่าซื้อได้ไม่ผิดหวังครับ

ช้าง–วัดห้วย

082-5699162

ID Line Changwathuay