พระเครื่อง
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระแชมป์–ราคาเบา
- หมวดพระยอดหายาก
ลุงอุดม และเพื่อนเพชรบุรี
หมวดตอบจดหมาย
สวัสดี อ.ช้าง–วัดห้วย
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณช้าง มาก ๆ ที่ช่วยลุงกับพรรคพวกดูรูปเบื้องต้นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ แม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” ตอนนี้ก็หุ้นกับเพื่อน ๆ ซื้อขึ้นมาแล้ว ลุงกับเพื่อน ๆ ตั้งใจจะลงในเกรดพรีเมี่ยม จะได้ให้คุณช้างเขียนรายละเอียดต่าง ๆ ได้เต็มที่เลย แต่คุยกับคุณช้างแล้ว คุณช้างก็ไม่อยากให้ลุงเสียเงินค่าลง 1 หมื่นบาท แค่ลงในหมวดตอบจดหมายก็พอแล้ว ตอนนั้นที่คุณช้างฝากถามหุ้นส่วนว่า ถ้าแลกของแล้วเพิ่มเงินบางส่วนจะได้ไหม ลุงก็สอบถามให้แล้วว่าได้ แต่ที่หุ้นส่วนอยากได้มากที่สุดคือขายขาดเลย แต่ลูกค้าประเภทนั้นจะหายาก แต่ถ้าไม่ได้ก็แลกของแล้วเพิ่มเงินให้บางส่วนก็ได้ แต่ถ้าแลกกันโดยไม่เพิ่มเงินทั้ง 2 ฝ่ายคงจะลำบาก เพราะพระสมเด็จองค์นี้หุ้นกันซื้ออยู่ 5 คน เสียงส่วนใหญ่ให้ขายไปเลยแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน อันดับ 2 แลกของกันแล้วเพิ่มเงินบางส่วน แต่ให้คุณช้างเป็นคนตรวจสอบในขั้นตอนสุดท้าย ส่วนชื่อองค์พระสมเด็จองค์นี้ตั้งตามชื่อเจ้าของเดิมชื่อ “องค์ธนเดช” และเปิดราคาที่ 15 ล้านบาทครับ องค์ที่ 2 พระมเหศวรเดี่ยว หลังซุ้มระฆัง เนื้อชินเงิน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี ลุงเปิดราคาที่ 150,000 บาท องค์ที่ 3 เครื่องรางกาฝากฝากรัก ชิ้นนี้ลุงไปเจอแถวริมทะเล เจ้าของเดิมเค้าแขวนไว้ที่พวงกุญแจรถยนต์เลยขอแบ่งมาในราคาแค่ 1,500 บาท แต่ถ้าคุณช้างชอบลุงเอาแค่ 2 พันบาทก็พอครับ องค์สุดท้ายองค์ที่ 4 ก็คือขุนแผนเคลือบ พิมพ์ใหญ่ ห้าเหลี่ยม ปิดทองเก่า องค์นี้ที่คราวก่อนคุณช้างบอกว่าลูกค้าในเว็บช้างอยากได้ก็ให้ลุงสอบถามดูจะให้แลกกับปิดตา หลวงปู่ไข่ ล้อมเพชร ตลับอย่างดี แต่ลุงเองมาช้าไป เค้าแลกกับคนอื่นไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร เพื่อนลุงเลยฝากลุงมาลงในหมวดตอบจดหมาย เปิดราคาที่ 1,800,000 บาท รอบไหนก็ได้ไม่รีบร้อน และสุดท้ายลุงฝากบอกคุณช้างไว้เลยว่า พระทุกองค์ของลุงทั้งพระเก่าที่เคยลงแล้ว และยังไม่ได้ลง ถ้าลูกค้าในหมวดตอบจดหมายอยากได้ ถ้าเงินสดไม่พอก็แลกของได้แล้วเพิ่มเงินได้ทุกองค์ครับ
โชคดี...ทุกวัน
ลุงอุดม และเพื่อนเพชรบุรี
ตอบ ลุงอุดม เพชรบุรี
พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ 4
“องค์ธนเดช”
องค์แรกประเดิมด้วยพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 4 เกศทะลุซุ้ม หรือจะเรียกว่าแม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” ก็ได้ และผู้เขียนก็ขออนุญาตลุงอุดมเล่าเรื่องตอนที่จะซื้อพระสมเด็จองค์นี้ให้ทุก ๆ ท่านได้ฟัง เริ่มจากเพื่อนของลุงอุดมมาหาที่บ้านแต่เช้า และได้คุยให้ลุงอุดมฟังว่าไปเจอพระสมเด็จแถวปราณบุรี เป็นพระของเพื่อน ปัจจุบันมอบให้ลูกชายแขวนอยู่ เป็นวัดระฆังพิมพ์ใหญ่สวยแชมป์ เห็นบอกว่ามีคนมาขอชมอยู่บ่อย ๆ เพื่อนลุงบอกดูแล้วก็น่าจะดีนะ แต่เปิดแพงหลายล้าน ลุงอุดมเลยถามว่ามีรูปถ่ายรึเปล่า เพื่อนลุงอุดมก็เอารูปที่ถ่ายไว้บนมือถือถ่ายให้ลุงอุดมดู ลุงอุดมดูแล้วก็บอกเข้าท่าดี พระสมเด็จองค์นี้จะคล้ายแม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” เห็น อ.ช้าง ลงอยู่บ่อย ๆ ยังไงก็บอกเจ้าของพระไปถ่ายรูปที่ร้าน แล้วส่งมา ลุงอุดมจะส่งให้ อ.ช้าง ดูก่อน ถ้าแท้ค่อยหาหุ้นส่วนรวบรวมเงิน เพื่อนลุงอุดมก็ไปแจ้งเจ้าของพระให้ถ่ายรูปแล้วส่งให้ลุงอุดม ลุงอุดมก็ส่งรูปมาทางไลน์ให้ผู้เขียนแล้วถามว่า พระสมเด็จองค์ที่ส่งรูปไปให้ดูองค์นี้ใช่แม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” มั้ย ผู้เขียนก็ดูแป๊ปเดียวก็บอกว่าใช่ สภาพความสวยแบบนี้ อ.ช้าง ประเมินราคาไว้ที่เท่าไหร่ ผู้เขียนก็ตอบกลาง ๆ ว่าประมาณ 50-60 ล้านบาท ลุงอุดมก็ตอบว่าราคาสูงขนาดนั้นเลยหรือ ผู้เขียนก็บอกว่า “องค์อธิบดี” เจ้าของก็ขายไป 150 ล้านบาท องค์นี้ความสวยก็ไม่แพ้หรอก ราคาประเมินก็ประมาณนี้แหละ ผู้เขียนก็สอบถามแล้วใครเป็นเจ้าของล่ะ ลุงอุดมก็บอกพรรคพวกลุงไปเจอที่ปราณบุรี แต่ยังไม่ได้ซื้อ เจ้าของเปิดราคาสูงต้องรวบรวมเงินก่อน ผุ้เขียนก็ถามว่าเจ้าของเปิดราคาถึง 10 ล้านบาทมั้ย ลุงอุดมบอกตอนแรกจะเปิด 10 กว่าล้านบาท ก็ถอยหมด ภายหลังให้เพื่อนลุงไปคุยกับเค้าอีกครั้งก็เลยลดหย่อนลงมาไม่ถึง 10 ล้านบาท ลุงอุดมก็เล่าประวัติพระองค์นี้ให้ฟัง โดยเพื่อนลุงเล่าให้ฟังว่า เดิมเจ้าของพระสมเด็จองค์นี้ชื่อธนเดช เป็นคนปราณบุรี ใส่สมเด็จองค์นี้มาถึง 30 ปี พระสมเด็จองค์นี้เป็นมรดกตกทอดกันมาของบ้านนี้ ภายหลังคุณธนเดชเสียไป ก็ส่งมอบพระสมเด็จให้ลูกชาย พอดีลูกชายคุณธนเดชรู้จักกับเพื่อนลุงอุดมก็คุยเรื่องพระกัน เพื่อนลุงอุดมก็เล่าเรื่องลุงอุดมให้ฟัง บอกรู้จักกับ อ.ช้าง วัดห้วย ลุงอุดมกับเพื่อนก็เลยสอบถามว่าพระสมเด็จองค์นี้เปิดราคาไว้ที่เท่าไร เจ้าของพระก็บอกไว้ 10 กว่าล้านบาท เพื่อนลุงก็บอกราคาแบบนี้ต้องขายเศรษฐีอย่างเดียว เพื่อนลุงอุดมก็เข้าไปคุยใหม่ภายหลังก็ลดลงมาเหลือไม่ถึง 10 ล้านบาท เรื่องที่ซื้อสมเด็จจากเจ้าของก็ประมาณนี้
ผู้เขียนก็บอกลุงอุดมว่า ลุงอุดมกับหุ้นส่วนซื้อพระสมเด็จองค์นี้ได้ถูกมากแล้ว และลุงอุดมจะเปิดราคาขายไว้ที่เท่าไหร่? ลุงอุดมกับหุ้นส่วนตอนแรกคิดว่าจะเปิด 25 ล้านบาท ลุงอุดมก็มาปรึกษา ผู้เขียนก็บอกไปว่าเราไม่ใช่เซียนใหญ่ เปิดแค่ 15 ล้านบาทก็พอแล้ว ขายเพื่อหาทุนไปซื้อองค์อื่นต่อดีกว่ามั้ย สุดท้ายลุงอุดมก็ไปปรึกษากับเพื่อน ๆ ว่าราคา 25 ล้านบาทจะขายยาก แค่ 15 ล้านบาทก็พอแล้ว สุดท้ายก็ตกลงเปิดราคานี้ และลุงอุดมก็ถามผู้เขียนว่าชื่อพระสมเด็จองค์นี้ชื่อ “องค์ธนเดช” ได้หรือเปล่า เป็นชื่อเจ้าของเดิมเค้า ผู้เขียนก็ลองเปิดกูเกิ้ล “ธนเดช” แปลว่า “มีทรัพย์เป็นอำนาจ” ก็บอกลุงอุดม ลุงอุดมก็ OK ใช้ชื่อนี้ และถือเป็นการให้เกียรติเจ้าของพระคนเดิมด้วยครับ
เล่ามาซะยาวเหยียดเลย สภาพพิมพ์พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์ธนเดช” เป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่แม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” ที่ผู้เขียนว่าสวยสุดเท่าที่เคยเห็นมา “องค์ธนเดช” องค์นี้ผู้เขียนให้ยืน 1 เลย เรามาไล่พิมพ์กันคร่าว ๆ ไม่ลงรายละเอียดมากนัก เริ่มจาก
1. เส้นบังคับพิมพ์ด้านขวาพระจะลากลงมาและจะแนบเส้นซุ้มครอบแก้วบริเวณฐานชั้นที่ 1 ส่วนด้านซ้ายพระจะลากลงมาและจะแนบซุ้มครอบแก้วตรงแนวกึ่งกลางแขนซ้ายพระหรือบางพิมพ์จะยาวเลยถึงข้อศอกซ้ายพระก็มี
2. ซุ้มครอบแก้วทางด้านขวาพระจะล้มเข้าหาตัวองค์พระ
3. ความโค้งของซุ้มครอบแก้วช่วงบนทางซ้ายพระจะเตี้ยและต่ำกว่าทางขวาพระ
4. เศียรพระจะกลมคล้ายผลมะตูม เกศพระจะทะลุซุ้มขึ้นไปเป็นตุ่มนิดเดียว ซึ่งจุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของพิมพ์ “องค์อธิบดี”
5. ส่วนรักแร้พิมพ์ “องค์อธิบดี” จะค่อนข้างเกือบจะเท่า ๆ กันทั้ง 2 ข้าง
6. ส่วนอก, ลำตัว จะทิ้งลงมาตรง ๆ เป็นแท่ง ๆ คล้ายพิมพ์ 3 อกกระบอก
7. ฐานชั้นบนกับหน้าตัก ให้ดูร่องฐานจะแลดูแคบกว่าพิมพ์ใหญ่มาตรฐานทั่วไป ซึ่งเซียนบางท่านจะบอกว่าผิดพิมพ์ ผู้เขียนเองคิดว่า พระสมเด็จแต่ละบล็อค แต่ละพิมพ์ ตอนช่างแกะแม่พิมพ์ เค้าก็ไม่ได้ระบุหรอกว่า ซุ้มต้องล้มนะ, รักแร้ต้องสูงต่ำนะ, เส้นบังคับพิมพ์ต้องตกกึ่งกลางแขนซ้ายพระนะ ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ เหล่านี้ มันคือความถนัดความเคยชินของคนแกะแม่พิมพ์ และเป็นเซียนรุ่นแรก ๆ ของวงการเป็นคนสังเกตว่าวัดระฆังส่วนใหญ่ที่พบเจอ ส่วนใหญ่ต้องเป็นแบบนี้ และได้จดบันทึกและบอกต่อกันมา ส่วนผู้เขียนเองก็ไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ต่าง ๆ จาก อ.เต็ก นครปฐม ผู้เขียนถือว่าโชคดีมาก ๆ และยังระลึกถึง อ.เต็ก ซึ่งถือว่าเป็นอาจารย์และเป็นอากู๋ ที่คอยสั่งสอนวิชาให้ และจากการบันทึกจากอดีตมาถึงปัจจุบันก็เป็นตำราศึกษากันมาถึงทุกวันนี้
8. ด้านหลังพระส่วนใหญ่ ถ้าเป็นแม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” จะต้องเป็นหลังกระดาน เป็นขีดเส้นเฉียง ๆ แบบนี้ทุกองค์ครับ ก็คือไม้กระดานอันนี้ที่มากดหลังคาดว่าเป็นไม้ที่พื้นผิวไม่เรียบ เป็นรอยผ่าไม้ที่คลองเลื่อยหยาบ หรือใบเลื่อยไม่คม แล้วเมื่อผ่าไม้ออกมาแล้วพื้นผิวจะหยาบเป็นร่องเฉียง ๆ แบบนี้ครับ
และจุดตายจุดสุดท้ายซึ่งบอกใครไม่ได้เหลือแค่จุดเดียวที่มีทุกองค์ในแม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” ใครซื้อองค์นี้ไปก็มาสอบถามจะได้บอกให้ฟรีจะได้รู้ว่าพระเราที่ซื้อมาเป็นแม่พิมพ์เดียวกันกับองค์อธิบดีที่ไม่บอกคนทั่วไป หรือชี้ตำหนิบอกก็เพราะเท่าที่บอกที่กล่าวมาแล้วก็ถือว่าเยอะแล้ว และบอกเก๊หรือแท้ก็ได้แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นจะต้องรู้จุดลับเฉพาะนี้ และอีกอย่างเดี๋ยวพวกทำเก๊ก็ไปทำอีก พวกเราก็ต้องไปค้นคว้าหาจุดใหม่อีก ซึ่งไม่มีวันจบอีกครับ
สำหรับพระสมเด็จ “องค์ธนเดช” องค์นี้ของลุงอุดมและเพื่อน ๆ ถือว่าเป็นผลงานสุด พรีเมี่ยมเลย และเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 4 เกศทะลุซุ้มที่งามสง่า หาใครจะมาเทียบเคียงได้ยากมาก และก็ขอชื่นชมลุงอุดมและเพื่อนที่เลือกเว็บช้างเป็นที่ปล่อยภาพสมเด็จองค์สวยองค์นี้สู่สายตาให้ทุก ๆ ท่านได้ชมกันเป็นบุญตา และพระสมเด็จองค์นี้ได้ตรวจสอบแล้วหลายสายตาว่าเป็นพระสมเด็จที่แท้และดูง่าย และที่สำคัญเป็นบล็อคแม่พิมพ์ “องค์อธิบดี” แบบเหมือนเป๊ะทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ลุงอุดมกับเพื่อนปรึกษากันแล้วว่า เปิดราคาสมเด็จองค์นี้ที่ 15 ล้านบาท ใครมีเงินเหลือ ๆ ก็ซื้อตัดไปได้ เพราะพระสมเด็จองค์นี้อนาคตไปได้อีกไกล ราคาอย่างต่ำก็ต้อง 50-60 ล้านบาท ใครมีวาสนาจะครอบครองพระสมเด็จองค์นี้ โปรดแสดงตัวได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน พระที่จะเก็บก็ต้องควรเก็บพระสวยแชมป์และเก็บในราคาไม่แพงนัก และเป็นพระหลักที่ทุกคนต้องการ อนาคตราคาก็วิ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ครับ เก็บแบบนี้อนาคตถึงรวยครับ
พระมเหศวรเดี่ยว หลังซุ้มระฆัง กรุวัดพระศรีฯ
องค์ที่ 2 พระมเหศวรเดี่ยว หลังซุ้มระฆัง เนื้อชินเงิน กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพระเครื่องเมืองสุพรรณที่แตกกรุออกมาพร้อมพระผงสุพรรณ 1 ในพระเบญจภาคีชุดใหญ่ของเมืองไทย พุทธลักษณะเป็นพระสมัยอู่ทอง นั่งปางมารวิชัย ส่วนใหญ่พระมเหศวรพิมพ์จะนั่งสวนทางกัน มีทั้งพิมพ์ใหญ่, พิมพ์กลาง, พิมพ์เล็ก และยังมีพิมพ์สวนตรงคือทั้งสองด้านเหมือนกัน คือนั่งไปในทิศทางเดียวกัน และยังมีพิมพ์พิเศษอีกหลายพิมพ์ เช่น ด้านหน้าเป็นพิมพ์ปางมารวิชัย ส่วนด้านหลังเป็นพิมพ์นาคปรกก็มี ผู้เขียนก็เคยเอามาลงแล้ว ส่วนองค์วันนี้ด้านหน้าเป็นพิมพ์ปางมารวิชัย ด้านหลังเป็นองค์พระปางมารวิชัยอยู่ในซุ้มระฆัง เป็นพระอีกพิมพ์ซึ่งหายากมาก ไม่ค่อยพบเจอ พิมพ์นี้ก็ถือว่าเป็นพิมพ์นิยมมาตรฐาน สภาพอยู่ในขั้นสวยงามมาก ราคากลางอยู่ที่หลักแสนกลางถึงล้าน แต่ลุงอุดมเปิดราคาแค่ 150,000 บาท ถือว่าเปิดถูกไม่แพงครับ แต่สมัยนี้พระกรุพวกเนื้อโลหะทั้งหมด ความนิยมลดหย่อนลงไปเยอะเลย คนที่ชอบเก็บก็หันไปเก็บเหรียญกันซะมากกว่า ส่วนพุทธคุณพระมเหศวรก็เน้นไปทางคงกระพันและมหาอุดครับ
เครื่องราง กาฝากฝากรัก เนื้อไม้มงคล
องค์ที่ 3 เครื่องราง กาฝากฝากรัก เห็นลุงอุดมไปเจอแถวชายทะเล แถวบ้านเจ้าของเดิม เค้าห้อยไว้กับพวงกุญแจ ลุงก็เลยสอยมาในราคา 1,500 บาท แต่จริง ๆ กาฝากที่ดีและนิยมต้องขึ้นอยู่กับไม้มงคลถึงจะเยี่ยม เช่น กาฝากไม้รัก, กาฝากไม้มะยม, กาฝากไม้มะรุม, กาฝากไม้คูณ กาฝากชิ้นนั้นถึงจะเยี่ยมยอด เฉพาะชื่อต้นไม้ที่กาฝากไปเกาะก็บ่งบอกถึงพุทธคุณจะไปทางไหน ชื่อต้นไม้ก็บอกอยู่แล้ว โบราณจึงนิยมหามาพกติดตัวเพื่อเป็นศิริมงคล
สำหรับกาฝากชิ้นนี้ลุงอุดมแบ่งให้ผู้เขียนในราคา 2 พันบาท ก็ OK ถือว่าถูกไม่แพง สภาพไม้กาฝากชิ้นนี้ค่อนข้างเก่า เจ้าของคนแรกนำมาตัดกิ่งที่เป็นง่ามออกไป แล้วเอาลวดทองแดงมาร้อยตามรูของกิ่งกาฝาก แล้วดัดลวดทองแดงให้เป็นห่วงร้อยกับพวงกุญแจ ดูจากพื้นผิวเดิมน่าจะเป็นไม้เนื้อไม่แข็งมากนัก และมีเปลือกไม้ ภายหลังเจ้าของก็เอารักมาทาผิวเพื่อรักษาเนื้อไม้ เมื่อกาลเวลาผ่านไปหลาย ๆ ปี รักที่ทาผิวนั้นก็เริ่มหดตัว ทำให้รักที่ทาบนพื้นผิวเริ่มปริแตกเป็นขีดสั้น ๆ แนวนอน ปริอ้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หลักการดูรักแบบนี้จะคล้าย ๆ กับการดูวัวธนูของหลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง แต่วัวธนูเนื้อเป็นคลั่งพุทรา การปริแตกจะคล้าย ๆ กัน เช่นเดียวกันถ้าผิววัวธนูคือคลั่งพุทราไม่ปริแตกเป็นริ้ว ๆ เหมือนเล็บจิกก็คือเก๊หรือไม่เก่าครับ
ไม้กาฝากชิ้นนี้ไม่รู้อย่างเดียวคือไม่รู้ไม้กาฝากนี้ไม้เกาะต้นไม้อะไร แต่ก็ถือว่าใช้ได้เหมือนกันหมดแหละครับ พุทธคุณไม้แต่ละชนิดก็ไปทางเมตตาและดึงดูดสิ่งดีเข้ามาก็คล้าย ๆ กัน และถ้าไม่ดีจริง เจ้าของเดิมคงไม่ทำซะสวยขนาดนี้หรอก สรุปก็ถือว่าถูกใจและขอบใจลุงอุดม มาก ๆ เลยครับ ที่แบ่งให้
พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล
พิมพ์อกใหญ่ ฐานเตี้ย
องค์ที่ 4 พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ชัยมงคล นับเป็นพระเครื่องอันดับ 1 ของอยุธยาเลยทีเดียว เพราะเป็นพระเครื่องที่งดงามของพุทธศิลป์ รวมทั้งพุทธคุณครบเครื่อง จัดเป็นต้นแบบของพระสกุลขุนแผนทั้งหมดก็ว่าได้ และภายหลังยังมีขุนแผนที่ขึ้นตามมาอีกหลายกรุ เช่น กรุโรงเหล้า, กรุเชิงท่า และกรุล่าสุดก็กรุบ้านกลิ้งขึ้นมาอีก 33 องค์ และขึ้นที่อื่น ๆ อีกเล็กน้อยซึ่งที่กล่าวมานี้มีพุทธลักษณะเหมือนขุนแผนเคลือบวัดใหญ่ชัยมงคลทุกประการ ส่วนใหญ่จะต่างกันแค่น้ำยาเคลือบ สีอาจจะอ่อนกว่าเล็กน้อย
พระขุนแผนเคลือบแบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ ได้แก่
- พิมพ์อกใหญ่ฐานสูง - พิมพ์อกใหญ่ฐานเตี้ย - พิมพ์แขนอ่อน
ส่วนพุทธคุณก็เด่นมากทางเมตตามหานิยม, แคล้วคลาด, คงกระพันชาตรี เรียกว่า ครอบจักรวาลเลยทีเดียว
ส่วนพระขุนแผนเคลือบองค์นี้เป็นพิมพ์อกใหญ่ฐานเตี้ย ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมที่สุดของขุนแผนทั้งสามพิมพ์ พุทธลักษณะโดยทั่วไปเป็นพิมพ์ทรงติดครบทุกส่วน พื้นผิวมีการปิดทองมาแต่เดิม ทำให้ผิวสุกเหลืองทองงดงามยิ่งนัก ถือว่าเป็นพระขุนแผนเคลือบที่งดงามองค์นึงของวงการเลยทีเดียว เพื่อนลุงอุดมเปิดราคาที่ 1,800,000 บาท ก็ถือว่าเป็นราคากลาง ๆ ไม่แพงเกินไป ใครสนใจก็คว้าได้เลย
ช้าง–วัดห้วย
082-5699162
ID Line Changwathuay