พระเครื่อง
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระแชมป์–ราคาเบา
- หมวดพระยอดหายาก
H003 พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่กรุฤๅษี องค์บุญปลื้ม
หมวดพระสุดหวง ของ ช้าง–วัดห้วย
H003 พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่กรุฤๅษี
“องค์บุญปลื้ม”
พระกำแพงซุ้มกอ “องค์บุญปลื้ม”
ถ้าจะพูดถึงเมืองกำแพงเพชรแล้วพระเครื่องที่มีชื่อเสียงอันดับ 1 ก็ต้องยกให้แก่พระตระกูลทุ่งเศรษฐี ใครมีไว้ครอบครอง เปรียบเสมือนมีของวิเศษอยู่คู่กายเลยทีเดียว โดยเฉพาะพระกำแพงซุ้มกอ จากประสบการณ์จากอดีตสู่ปัจจุบัน ผู้ใดที่มีไว้ครอบครองจะเป็นผู้ได้รับความนิยมชมชอบ, มีเมตตามหานิยม จะเจริญก้าวหน้า มั่งมีศรีสุข ตามคำจารึกของคนโบราณกล่าวไว้ว่า “ใครมีกูไว้ไม่มีจน” และก็ได้พิสูจน์กันแล้วว่า ใครได้ใช้พระกำแพงซุ้มกอ จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะประสบโชคลาภ มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน หรือทำการค้าก็ประสบความสำเร็จร่ำรวยกันมาเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา
จากคำบอกเล่าผู้สร้างพระกำแพงซุ้มกอ เป็นฤๅษีผู้มีเวทมนต์ชั้นสูง จำนวน 11 ตน เป็นผู้สร้างเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา บรรจุไว้ในเจดีย์พระธาตุทุ่งเศรษฐี ในโอกาสสร้างเจดีย์ถวาย เจ้าพระยาลิไท กษัตริย์สมัยกรุงสุโขทัยในขณะนั้น พระกำแพงซุ้มกอเป็นพระที่ขึ้นจากลาน ทุ่งเศรษฐี จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งมีการค้นพบหลายกรุ เช่น กรุวัดบรมธาตุ, กรุวัดพิกุล, กรุวัดฤๅษี และกรุอื่น ๆ อีกหลายกรุ แบ่งออกเป็นพิมพ์มีกนกและไม่มีกนกข้าง พิมพ์มีกนกมีทั้งพิมพ์ใหญ่, พิมพ์กลาง, พิมพ์เล็ก พิมพ์จิ๋ว และพิมพ์ขนมเปี้ยะ พระที่พบส่วนใหญ่เป็นเนื้อดินเผา เป็นพระเนื้อละเอียดและอ่อนนุ่ม มีว่านดอกมะขามสีออกแดง ๆ ลอยอยู่บนพื้นผิว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ พระสกุลเมืองกำแพง ส่วนพระซุ้มกอแบบไม่มีกนกส่วนใหญ่จะพบแต่ซุ้มกอดำพิมพ์ใหญ่ เนื้อพระจะออกสีดำ หรือออกน้ำตาล เท่านั้น
พระซุ้มกอจากอดีต พวกเซียนจะนิยมเล่นกรุบรมธาตุ, กรุวัดพิกุล ส่วนกรุอื่น ๆ จะไม่ค่อยได้รับความนิยม ภายหลังวงการเริ่มหันมาเล่น “กรุฤๅษี” โดยมีซุ้มกอพิมพ์ใหญ่ “องค์เจ้าเงาะ” เป็นพระเอกของพิมพ์ แต่กว่าวงการจะยอมรับก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายปีทีเดียว ประวัติองค์เจ้าเงาะคร่าว ๆ เจ้าของคนแรกคือคุณเชียร ธีรศานต์ คือผู้ค้นพบจากกรุ ซึ่งพระองค์นี้อยู่ลึกถึงก้นหลุม เมื่อคุณเชียร ธีรศานต์ นำขึ้นจากหลุมปรากฏว่า พื้นผิวพระมีราดำเต็มไปหมด คุณเชียร ธีรศานต์ จึงตั้งชื่อว่า “องค์เจ้าเงาะ” ภายหลังทำการล้างแบบค่อยเป็นค่อยไปถึง 11 ครั้ง จึงถอดรูปเป็นพระกำแพงซุ้มกอ “องค์เจ้าเงาะ” ที่สวยที่สุดในประเทศ ต่อมาองค์เจ้าเงาะได้ย้ายรังเปลี่ยนเจ้าของเป็นของคุณนิยม อุสนี ณ อยุธยา รังพระขนาดใหญ่ของจังหวัดนครสวรรค์ ภายหลังโกอินเตอร์ไปต่างประเทศ ให้เศรษฐีชาวฮ่องกง ชื่อไลก็อตวิน เช่าไปในราคา 40 ล้านบาท ผู้เขียนเคยคุยกับคุณ “ไก่ตำนาน” ซึ่งสนิทกับคุณไลก็อตวิน เล่าให้ฟังว่าช่วงนั้น ไลก็อตวิน เช่าพระหลัก ๆ ของเมืองไทยไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งไลก็อตวินจะไปเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ฮ่องกง และมีข่าววงในว่าภายหลังมีเศรษฐีเมืองไทยเกิดความเสียดายกะว่าจะไปตีพระกลับ จึงส่งคนไปเจรจา ว่ากันว่าเศรษฐีท่านนี้สู้ “องค์เจ้าเงาะ” ถึง 100 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่คุณไลก็อตวินปฏิเสธไม่ขาย ถ้าคุณจะซื้อซุ้มกอ “องค์เจ้าเงาะ” องค์นี้คุณต้องใช้เงินถึง 500 ล้านบาทถึงจะตกลง จึงทำให้คนไทยผิดหวังไปตาม ๆ กัน พระซุ้มกอ “องค์เจ้าเงาะ” เป็นพระซุ้มกอองค์แรกที่ทำให้วงการพระเครื่องเมืองไทยหันมายอมรับ “กรุฤๅษี” และก็มีเซียนใหญ่บางท่านก็เริ่มเก็บเข้ารังบ้าง เศรษฐีเมืองไทยหลายท่านก็หันมาเก็บ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มแพงแล้วแต่จะแพงมากอีกที ก็ตอนไปอยู่ในรังพระรังใหญ่ ๆ ระดับประเทศ “อ.เต็ก นครปฐม” เคยคุยกับผู้เขียนว่า ถึงพระซุ้มกอกรุฤๅษี เป็นพระที่ขึ้นจากกรุทีหลัง กรุบรมธาตุ และกรุวัดพิกุลก็จริง แต่ความสวยแต่ละองค์ที่เห็นค่อนข้างจะสวยแชมป์หลายองค์ อ.เต็ก ยังคุยต่อว่า กรุบรมธาตุกับกรุวัดพิกุลมีแต่พระสึก ๆ หน้าตาลื่น ๆ และบางองค์ก็แกะตา คือเซาะให้ลึก บางคนก็ไม่รู้ ก็ซื้อไปเข้ารังน่าสงสารจริง ๆ อ.เต็ก ยังเคยถามผู้เขียนว่า พระกำแพงซุ้มกอกรุฤๅษีมึงเก็บไว้กี่องค์ ผมก็ตอบไปว่า ถ้าสวยแชมป์ก็มี 2 องค์ ก็คือ องค์เนื้อเขียว ก็คือ “องค์นพรุจ” กับ “องค์บุญปลื้ม” และพอสวยอีก 2-3 องค์ อ.เต็ก ยังพูดอีกว่า วันหนึ่งพวกเซียนมันไม่มีของเล่น มันก็เล่นเองแหละ พวกเซียนอะไรที่มันขายได้มันเล่นหมดแหละ มึงมาถูกทางแล้ว เก็บไว้ให้เยอะหน่อยคัดแต่พระสวย ๆ ฟอร์มดี เก็บไว้เหอะอนาคตดีแน่ และนี่เป็นคำพูดของ อ.เต็ก ที่คุยกับผู้เขียนเมื่อ 10 กว่าปีแล้ว ผู้เขียนก็นำมาเล่าสู่กันฟัง และปัจจุบันก็เริ่มเห็นพระกำแพงซุ้มกอกรุฤๅษีองค์สวย ๆ เข้าสู่ในเน็ตแล้ว และอนาคตต่อจากนี้ถ้าเซียนทุกคนเริ่มเก็บอะไรจะเกิดขึ้น ราคาพระก็จะเริ่มแพงขึ้น การเปรียบเทียบกับองค์เจ้าเงาะก็จะมีมากขึ้น เช่น ทุกคนก็จะพูดบอกว่าพระผมสวยพอ ๆ กับองค์เจ้าเงาะ แต่ราคาถูกกว่าเยอะ และใคร ๆ ก็อยากโกอินเตอร์ อยากขายต่างชาติเพราะได้ราคาดี และถ้าอยากให้ทุกอย่างที่กล่าวมานี้สำเร็จ ทุกคนต้องช่วยกันครับ
พระกำแพงซุ้มกอ พิมพ์ใหญ่
“องค์บุญปลื้ม”
ต่อไปเราจะมาพูดถึงพระกำแพงซุ้มกอ “องค์บุญปลื้ม” พระซุ้มกอองค์นี้ไม่ใช่พระหน้าใหม่ในวงการ องค์นี้อยู่กับผู้เขียนมา 20 ปีแล้ว ไม่เคยเปลี่ยนมือและไม่เคยเอาออกมาใส่ ถ้านึกย้อนหลังตอนนั้น นายหน้าไปเจอที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม แล้วก็พาผู้เขียนไปดูอยู่หลายครั้ง กว่าจะเช่าซุ้มกอองค์นี้สำเร็จ
เมื่อได้ “องค์บุญปลื้ม” มาแล้ว ก็รีบไปให้ อ.เต็ก ดู ตอนนั้นผู้เขียนก็เพิ่งเล่นพระมาไม่นาน แต่ก็มีพระกำแพงซุ้มกอพิมพ์ใหญ่กรุฤๅษี ก็มีอยู่ 3-4 องค์ ที่เก็บไว้เป็นครูไว้ดูพิมพ์ดูเนื้อ ทันทีที่ อ.เต็ก เห็นก็หลุดคำพูดออกมาว่า “องค์นี้ได้ตังค์” แล้วก็หันมามองผู้เขียนแล้วก็พูดว่า ถ้ามึงจะขายมึงบอกวันเดียวจบ ซุ้มกอองค์นี้เป็นพระแชมป์เนื้อจัดมาก “พิมพ์ลึกชัดเจน” พอหันดูด้านหลังก็ร้องว่า โอ้โห หลังยิ่งสวยใหญ่ ลายกาบหมากยังอยู่ครบถ้วน และคราบราดำยังอยู่เต็ม ๆ ซุ้มกอองค์นี้สมบูรณ์แบบจริง ๆ พระสวยแชมป์แบบนี้ไม่ใช่จะเจอง่าย ๆ และ อ.เต็ก ยังแนะอีกว่า มึงอายุยังน้อย อนาคตอีกยาวไกล พระสวยแชมป์แบบนี้ถ้ามึงจะเก็บไว้สร้างชื่อเสียงก็ดี เพราะพระแบบนี้ วันหนึ่งคนที่อยากได้เค้าจะมาหาเราเองถึงบ้านไม่ต้องไปเร่ขาย และอีกอย่างที่จะบอก พระเวลาเอาไปขายให้กับคนซื้อ กับเวลาคนมาขอซื้อจากเรา มันคนละราคากัน มึงจำคำพูดนี้ไว้ และเวลาเลือกพระสวยเท่ากัน 2 องค์ องค์หนึ่งเนื้อจัด อีกองค์ธรรมดาเนื้อไม่จัด เราควรจะเลือกพระองค์เนื้อจัด ๆ ไว้ก่อน เพราะคนส่วนใหญ่จะชอบดูเนื้อก่อนไม่ค่อยดูพิมพ์กันหรอก หลังจากนั้นก็ส่งรูปไปลงหนังสือ คเณศ์พรพระเครื่อง และไปลงหนังสือเก๊-แท้ พระซุ้มกอ ของสำนักพิมพ์บ้านครู ซึ่งเป็นเครือข่ายของคเณศ์พรพระเครื่อง และสุดท้ายไปเป็นสปอนเซอร์งานประกวดสามพราน ก็อยากรู้ว่าเซียนในวงการจะดู “องค์บุญปลื้ม” ว่าแท้หรือไม่ และกล้าลงให้หรือเปล่า สุดท้ายก็ลงให้ จากนั้นก็เก็บเงียบมาจนถึงปัจจุบัน และสาเหตุที่พระกำแพงซุ้มกอกรุฤๅษี มีพระสวยระดับแชมป์ขึ้นมาอวดโฉมหลายองค์ อาจเป็นเพราะ กรุฤๅษี เป็นพระที่ขึ้นจากกรุทีหลังกรุบรมธาตุ และกรุวัดพิกุลจึงทำให้ผู้คนมีความรู้ในการเก็บรักษา การพกพาติดตัวไป การรู้จักอนุรักษ์, รู้คุณค่าของพระเครื่อง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จึงทำให้พระซุ้มกอกรุฤๅษีหรือพระต่าง ๆ ยังคงสภาพเหมือนเดิม และยังคงอยู่สภาพแบบนี้อีกนานแสนนาน
สำหรับพระกำแพงซุ้มกอ “องค์บุญปลื้ม” องค์นี้ เคยถ่ายรูปมาแล้ว 2 ครั้ง คือ พื้นน้ำเงินกับพื้นเขียว ส่วนครั้งนี้ครั้งที่ 3 พื้นแดง รวมแล้ว 3 ครั้ง 20 ปี สภาพพระก็ยังสวยแชมป์เหมือนเดิม และนี่คือพระสุดหวงของช้างอีกชิ้นหนึ่งครับ สุดท้ายก็ควรแนบเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ แก่ท่านผู้อ่านบ้างก็ยังดี
หลักการพิจารณา
- ขอบด้านขวามือพระจะใหญ่ และตรงช่วงโค้งด้านบนจะห่อ ๆ โค้งเข้า ส่วนทางด้านซ้ายมือพระเส้นขอบจะบางและเล็กกว่า
- ตรงตาซ้ายพระ (เฉพาะกรุฤๅษี) จะมีเปลือกตาหรือหนังตาอยู่ 1 เส้น
- ซุ้มประภามลฑลข้างขวาพระ จะเอียงลาดลงต่ำกว่าข้างซ้ายพระ
- กนกข้างซ้ายพระจะแกะพิมพ์ให้หางกนกยาวเกือบชิดเส้นประภามลฑล ส่วนกนกข้างขวาจะห่างจากเส้นประภามลฑล
- การวางแขนข้อศอกทั้งสองข้างจะถ่างออกกว้างกว่าแนวหัวไหล่
- แขนขวาพระท่อนบน จะยาวกว่าแขนซ้ายพระท่อนบน
- บัวเล็บช้างด้านล่าง ให้สังเกตดูบัวตรงกลางด้านบนบัวจะโค้งตัวเดียว นอกนั้นบัวฝั่งซ้ายและฝั่งขวาจะเป็นเหลี่ยมทั้งหมด
พระกำแพงซุ้มกอ กรุฤๅษี “องค์นพรุจ”
จำนวนผู้เข้าชม
ช้าง–วัดห้วย