พระเครื่อง
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระแชมป์–ราคาเบา
- หมวดพระยอดหายาก
004 หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จังหวัดนนทบุรี (องค์จอมทัพ)
หนุมาน หลวงพ่อสุ่น พิมพ์หน้าโขน
สุดยอดเครื่องราง ประเภทลิงหรือหนุมาน ที่บรรดานักสะสมต่างเชื่อมั่นในพุทธคุณ และทุก ๆ คนยกย่องให้เป็นอันดับ 1 ได้แก่ หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จังหวัดนนทบุรี หนุมานหลวงพ่อสุ่นจัดอยู่ในชุดเบญจภาคี เครื่องรางของขลังที่ใคร ๆ อยากเป็นเจ้าของ อยากได้ครอบครอง แต่ก็ไม่ใช่จะหามาได้ง่าย ๆ
หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน เป็นชาวนนทบุรี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดศาลากุน ได้รับฉายาว่า “จันทโชติ” หลวงพ่อสุ่นได้จำพรรษาที่วัดศาลากุนมาโดยตลอด ภายหลังได้แต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาส หลวงพ่อสุ่นได้พัฒนาวัดศาลากุนจนเจริญรุ่งเรือง และได้ศึกษาวิชาอาคมจนแก่กล้า และเป็นที่ยอมรับของทุก ๆ คน
หลวงพ่อสุ่นเริ่มคิดจะสร้างหนุมานสมัยที่ท่านยังเป็นพระลูกวัด ตอนนั้นท่านได้เริ่มปลูกต้นรัก และต้นพุดซ้อน ไว้บริเวณหน้ากุฏิ รดน้ำมนต์ทุกวันจนเติบใหญ่ ภายหลังหลวงพ่อสุ่นได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงได้เริ่มสร้างหนุมานโดยท่านได้เรียนวิชาสร้างหนุมานมาจาก “พระนาคทัศน์” จากนั้นท่านได้เริ่มทำพิธีบัตรพลีก่อนทำการขุด เมื่อท่านได้ขุดต้นรักและต้นพุดซ้อนแล้ว ท่านก็นำไม้ทั้งสองไปตากแห้งจนได้ที่แล้ว ท่านก็ให้พระลูกวัดไปตามช่างที่มีฝีมือทางด้านนี้มาแกะ (ว่ากันว่า ค่าแกะหนุมานราคาตัวละ 1 บาท) เมื่อแกะครบตามจำนวนที่ต้องการแล้ว จึงทำพิธีปลุกเสกโดยใช้คาถาหัวใจหนุมานและเพ่งกสิณไปในบาตรจนหนุมานที่อยู่ภายในบาตรกระโดดโลดเต้น หลวงพ่อสุ่นปลุกเสกหนุมานแบบนี้ทุก ๆ วัน จนครบ 3 เดือน จึงเป็นอันเสร็จพิธี แล้วค่อยแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ของท่าน และผู้ที่สนใจมาขอไว้บูชา
หนุมาน หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์
- พิมพ์หน้าโขน ช่างจะแกะในลักษณะนั่งยอง ๆ ชันเข่า มือกุมเข่าทั้งสองข้าง และแกะใบหน้าหนุมานในลักษณะอ้าปากแยกเขี้ยว และแกะรายละเอียดทั่วไปในแบบทรงเครื่อง แกะได้ละเอียดและดุดัน พิมพ์หน้าโขนจะเป็นพิมพ์นิยมที่สุด และหายากมาก ๆ
- พิมพ์หน้ากระบี่ ช่างจะแกะในลักษณะนั่งยอง ๆ ชันเข่า มือกุมเข่าทั้งสองข้างเช่นกัน แต่ช่างจะแกะแบบเรียบง่ายไม่ได้มีรายละเอียดมากนัก
ภายหลังเมื่อไม้ทั้งสองชนิดหมดลงก็มีการนำงาช้างมาแกะและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน แต่เนื้องามีจำนวนไม่มากนัก
พุทธคุณของหนุมาน หลวงพ่อสุ่น
จะโดดเด่นทางด้านมหาอำนาจ คงกระพันมหาอุด และเมตตามหานิยม มีครบแทบทุกอย่างเลยก็ว่าได้ สุดยอดจริง ๆ
ประวัติการได้ครอบครอง
หนุมาน หลวงพ่อสุ่นตัวนี้ได้มาจากเจ้าของ “เบี้ยทองมะเฟือง” ที่ได้เขียนลงในเว็บช้างเมื่อครั้งก่อน หลังจากที่ผมได้ “เบี้ยทองมะเฟือง” ไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นานนัก เพื่อนที่ไปด้วยกันได้โทรมาคุยให้ฟังว่า บ้านนี้ยังเหลืออีก 1 ชิ้นที่หวงสุด ๆ ก็คือ หนุมาน หลวงพ่อสุ่น พิมพ์หน้าโขน แต่ตัวนี้จะใหญ่กว่าปกติทั่วไปเล็กน้อย คือสูงประมาณ 3 ซม. แต่สภาพสวย และสมบูรณ์มาก ๆ และ ที่สำคัญแกะหนุมานได้ดุมาก ทันทีที่ผมได้ยินคำว่าแกะได้ดุมาก ผมถามว่าเราจะไปชมหนุมานตัวนี้เมื่อไร? ภายหลังเพื่อนก็พาไปที่บ้านเจ้าของหนุมานเลย เมื่อไปถึงบ้าน บ้านเป็นสวนผลไม้ มีพี่น้องอยู่ 3 คน เพื่อนผมก็พาผมไปนั่งรอที่ศาลาริมน้ำ ลุงเจ้าของหนุมานก็เดินเข้ามา ผมก็เลยทักทายลุง ลุงสวัสดี ยังจำผมได้หรือเปล่า ลุงตอบจำได้ วันนี้ผมมาขอชมหนุมานของลุงหน่อย ลุงก็ตะโกนให้น้องชายไปหยิบหนุมานมาให้ชม ผมเห็นปุ๊บ แหม! ตัวใหญ่ไปหน่อย แต่สวยดี หนุมานตัวนี้ลุงได้มายังไงครับ หนุมานตัวนี้ลุงได้มา 10 กว่าปีแล้ว เพื่อนลุงแบ่งให้มา เพื่อนลุงเล่าให้ลุงฟังว่า สมัยก่อนบ้านเพื่อนลุงได้มาหลายตัว ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ตัวเล็กให้ผู้หญิงกับเด็ก ตัวใหญ่ตัวนี้เพื่อนลุงเลือกเอง และพูดกับตัวเองว่า “ตัวนี้ซิโว้ย จ่าฝูง” ภายหลังเพื่อนลุงก็นำหนุมานตัวนี้มาอวดลุง ลุงเห็นแล้วก็ชอบก็เลยถามว่า หนุมานตัวนี้ขอแบ่งได้หรือเปล่า เพื่อนลุงเลยตอบว่า เพื่อนกันไม่อยากขาย เอาพระมาแลกกันดีกว่า ได้ข่าวว่าลุงมีสมเด็จบางขุนพรหม 3 องค์ ลุงก็เลยตอบว่า สมเด็จมันแพงกว่าเยอะ เอาแบบนี้ดีกว่า แปะราหูอมจันทร์ หลวงพ่อน้อย มาให้อีกองค์ เป็นอันว่าตกลงทั้งสองฝ่าย ลุงก็ได้ใช้หนุมานตัวนี้มา 10 กว่าปีแล้ว ส่วนราหูอมจันทร์ ลุงก็ให้น้องชายไป ผมก็เลยถามลุงไปว่าลุงใช้มานาน 10 กว่าปีแล้ว ลุงเบื่อหรือยัง ลุงก็ตอบว่า ลุงก็ใช้ไปเรื่อย ๆ ไม่เบื่อหรอก ผมนั่งคิดดูแล้วว่า วันนี้คงไม่จบจึงทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าวันใดลุงอยากจะปล่อยหนุมานตัวนี้ก็โทรบอกเพื่อนผม ส่วนเรื่องราคาลุงก็ตั้งราคามาแล้วกัน หลังจากนั้นต่างคนต่างเงียบไป 3-4 ปี วันนึงลุงก็โทรมาหาเพื่อนผมแล้วถามเพื่อนผมว่า ผมยังสนใจหนุมาน หลวงพ่อสุ่น อยู่หรือเปล่า เพื่อนผมรีบตอบแทนเลยว่ายังสนใจ เพื่อนผมก็เลยถามกลับว่าแล้วลุงจะเปิดราคาเท่าไรครับ ลุงก็ตอบกลับมาว่า ถ้าได้ 2 แสนลุงก็จะปล่อยให้ เพื่อนผมกลับมาแล้วก็รีบส่งข่าวให้ผมทราบ ผมก็ลองคำนวณดูว่า “เบี้ยทองมะเฟือง” เปิด 1.2 แสน ต่อแล้วลดเหลือ 9 หมื่น ส่วนหนุมานตัวนี้ เปิด 2 แสน ต่อรองแล้วน่าจะลดได้ เหลือสัก 1.5 แสน ผมก็เลยบอกเพื่อนไปว่า ให้พูดแบบนี้แล้วจะลงตัวเอง ให้บอกว่าหลังจากคราวก่อนที่ไปหาลุง พอกลับมาไม่นานก็ได้หนุมานหน้าโขนมาแล้ว 2 ตัว แต่ตัวนี้เพื่อนผมเคยบอกลุงไว้ว่า ถ้าจะปล่อยให้โทรบอก เพื่อไม่ให้เสียคำพูด เพื่อนผมขอต่อไว้ที่ 1.5 แสน ถ้าลุงตกลงราคานี้ เพื่อนผมจะเอาเงินสดมาจ่ายภายใน 2 วัน เพื่อนผมก็บอกตามที่ผมสั่ง ลุงก็บอกขอคิดดูก่อน และต้องปรึกษากับน้อง ๆ พรุ่งนี้ลุงจะโทรให้คำตอบ รุ่งขึ้นลุงโทรบอกเพื่อนผมว่าตกลงในราคา 1.5 แสนบาท อีก 2 วัน ผมก็เอาเงินเข้าไปจ่ายลุง ลุงยังแอบชมผมว่า คุณเองก็ดูเก่ง ซื้อเอง ดูเอง พูด คำไหนคำนั้น และไม่ต้องพาคนมาช่วยดูเยอะแยะเหมือนรายอื่น ๆ ที่มาขอดูพระลุง และลุงยังบอกทิ้งท้ายอีกว่า หนุมานตัวนี้ ลุงได้ตั้งชื่อว่า “จอมทัพ” เพราะตอนเจ้าของเดิมได้มาได้เรียกว่า “จ่าฝูง” ความหมายก็คือ หัวหน้าหรือผู้นำ ลุงก็เลยเปลี่ยนชื่อเป็น “จอมทัพ” ให้สมศักดิ์ศรีนักรบผู้กล้าหาญ ผมก็ตอบลุงกลับว่าดี ดีมากครับ ชื่อนี้ผมชอบมากครับ และขอบคุณลุงอีกครั้งที่แบ่งหนุมานตัวนี้ให้ผมเป็นคนดูแลคนต่อไป
ตอนนี้เรามาตรวจสอบว่าหนุมานที่ชื่อ “จอมทัพ” จะดีและแท้อย่างไร เริ่มต้นจากขนาดคือสูง 3 ซม. ความอ้วนของตัวหนุมานประมาณโคนนิ้วก้อย ประมาณ 1.5 ซม. ก็ถือว่าไม่ใหญ่นัก และถ้าจะเป็นจอมทัพหรือผู้นำก็ต้องตัวใหญ่หน่อย คือร่างกายกำยำ แข็งแรง เป็นที่น่าเกรงขามต่อฝ่ายตรงข้าม ศิลปะการแกะเป็นพิมพ์หน้าโขน ช่างแกะรายละเอียดลวดลายต่าง ๆ บนตัวหนุมานได้อลังการมาก โดยเฉพาะช่วงอ้าปากและเขี้ยวได้อันใหญ่มาก ดูแล้วหน้าดุจริง และน่าเกรงขามอย่างที่สุด สภาพพื้นผิวส่วนที่ลึกไม่ถูกสัมผัสจะเป็นพื้นผิวสีเทาอ่อน ๆ ในซอก หรือในร่องจะมีคราบ ราดำ ส่วนที่ถูกสัมผัสคือส่วนที่ยื่นออกมา เช่น มือที่กุมเข่า, จมูก, หลัง เนื้อจะจัดจ้าน จะเห็นเนื้อในของไม้จะออกเหลืองเล็กน้อย ส่วนเรื่องน้ำหนัก หนุมานตัวนี้จะเบามาก หนุมาน หลวงพ่อสุ่น อายุถึงปัจจุบันก็ร่วม ๆ 100 ปีแล้ว ไม้ชิ้นเล็กเท่านิ้วก้อย คงแห้งสนิทและไม่มีความชื้นในเนื้อไม้หลงเหลืออีกแล้ว และนี่ก็คือหนุมานที่ชื่อ “จอมทัพ” ของรัก ของหวง อีกชิ้น ของ ช้าง–วัดห้วย ที่เก็บเงียบมานาน และยินดีเผยโฉมในเว็บ ช้าง–วัดห้วย เพียงแห่งเดียวเท่านั้น
ช้าง–วัดห้วย