พระเครื่อง
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระแชมป์–ราคาเบา
- หมวดพระยอดหายาก
องค์ที่ 010 ตะกรุด หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า
ถ้าจะกล่าวถึงตะกรุดหลายชั้น โดยชั้นนอกเป็นตะกั่ว แกนกลางเป็นทองแดงหรือทองเหลือง ก็จะต้องนึกถึง ตะกรุดสายพิจิตร และถ้าถามถึงต้นตำรับการสร้างตะกรุดหลายชั้น ก็ต้องยกให้ หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า เป็นเจ้าแรก ต่อมาภายหลังก็มีเกจิอาจารย์สายพิจิตรชื่อดังหลายท่าน เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง หลวงพ่อภู่ วัดท่าฬ่อ ได้แบบอย่างการทำตะกรุดของหลวงพ่อโพธิ์ เพียงแต่บางท่านมาปรับเปลี่ยน มาทำแกนกลางเป็นอั่วทองแดงหรือทองเหลือง เพื่อความคงทนแข็งแรง รูปทรงตะกรุดจะได้ไม่บิดงอ
หลวงพ่อโพธิ์ เป็นพระมอญ เป็นเกจิอาจารย์ยุคเก่าและเก่ามาก ๆ ด้วย คงมรณภาพมากกว่าร้อยปีแล้ว ประวัติความเป็นมาจึงลางเลือน มีแต่คำบอกเล่าว่าท่านชอบธุดงค์ไปตามป่าเขา แล้วสร้างกุฏิเล็ก ๆ ของท่านไว้กลางป่า ท่านชอบอยู่องค์เดียวไม่ชอบความอึกทึก ชอบนั่งวิปัสสนา มีเรื่องเล่าว่า เวลาเกิดไฟป่า ไฟลามไปใกล้ ๆ กุฏิของท่าน ท่านก็ไม่หนี สุดท้ายไฟป่าก็ดับเอง ต่อมาได้มีการจัดสร้างวัดวังหมาเน่าขึ้น สาเหตุที่เรียกแบบนี้ก็เพราะเหนือบริเวณวัดขึ้นไป ประมาณ 100-200 เมตร สายน้ำตรงนั้นจะเลี้ยวโค้งหักศอก ทำให้เกิดวังน้ำวนขึ้น หมาเน่าที่ลอยมาตามน้ำก็จะไหลวนอยู่ตรงบริเวณนั้น บางครั้งมีหมาเน่าตายอยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมาก ทำให้มีกลิ่นเหม็นมาก ๆ แต่หลวงพ่อโพธิ์ท่านไม่รังเกียจ และไม่เหม็นด้วย เพราะท่านมีคาถาดี หลังจากหลวงพ่อโพธิ์มรณภาพไปแล้ว ทางวัดจึงถูกจัดตั้งใหม่และเปลี่ยนชื่ออย่างเป็นทางการเรียกว่า “วัดโพธิ์ศรี” ประมาณปี 2482 โดยใช้ชื่อหลวงพ่อโพธิ์เป็นหลักในการตั้งชื่อวัด
จากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุในละแวกนั้น บอกว่าหลวงพ่อโพธิ์ท่านสร้างตะกรุดไว้น้อยมาก ส่วนใหญ่ลูกศิษย์จะขอร้องให้สร้าง เพื่อพกติดตัวไว้ป้องกันอันตรายและลูกศิษย์จะต้องจัดหาวัสดุ ได้แก่ แผ่นตะกั่ว, แผ่นทองแดง หรือแผ่นทองเหลือง หลวงพ่อโพธิ์จะสร้างตะกรุดขนาดเขื่อง โดยมีแผ่นทองแดงหรือแผ่นทองเหลืองพันอยู่ตรงกลาง วัตถุประสงค์เพื่อป้องกันไม่ให้ตะกั่วชำรุดง่าย เพราะถ้าใช้ตะกั่วอย่างเดียวจะบี้แบนได้ง่าย แผ่นตะกั่วของหลวงพ่อจะค่อนข้างหนากว่าเกจิอาจารย์ท่านอื่น ท่านจะจารอักขระต่าง ๆ ลงบนแผ่นตะกั่ว, แผ่นทองแดง, แผ่นทองเหลือง อย่างจุใจ คือลงเต็มแผ่นโลหะจนเสร็จ เวลาม้วนท่านจะวางแผ่นตะกั่วไว้ด้านนอก และแผ่นทองแดงแผ่นทองเหลืองไว้ด้านใน วางซ้อนกันแล้วค่อยม้วน แผ่นโลหะ ต่าง ๆ จะซ้อนกันสลับกันไป ตะกรุดบางดอก จะมีแค่แผ่นตะกั่วกับแผ่นทองแดง บางดอกจะมีแค่แผ่นตะกั่วกับแผ่นทองเหลือง และบางดอกก็มีโลหะ 3 ชนิดเลย ก็คือ แผ่นตะกั่ว, แผ่นทองแดง และแผ่นทองเหลืองม้วนซ้อนกัน แล้วแต่ลูกศิษย์จะจัดวัสดุมาให้ เมื่อท่านม้วนตะกรุดเสร็จ หลวงพ่อโพธิ์จะปลุกเสกเดี่ยว จนเต็มที่แล้ว แล้วจะแจกคืนเจ้าของภายหลัง
ตะกรุดของท่านมีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาดเท่าหัวแม่มือถึงขนาดแฮนด์รถจักรยาน มีทั้งแบบถักเชือกแล้วลงรัก หรือแบบเปลือยไม่ถักเชือกก็มี ตะกรุดของท่านส่วนใหญ่จะมีตั้งแต่ขนาด 4” ขึ้นไป ส่วนดอก สั้น ๆ ขนาด 1.5” แบบรูปตัวอย่างจะไม่ค่อยเจอ เคยเจอบางครอบครัวมีตะกรุดอยู่แค่ดอกเดียวแต่มีลูกอยู่หลายคน สุดท้ายต้องตัดแบ่ง ๆ กันไปก็มี แต่ส่วนใหญ่ตะกรุดหลวงพ่อโพธิ์ จะสมบูรณ์เกือบทุกดอก เพราะเป็นตะกรุดขนาดใหญ่ พกพานำติดตัวจะลำบาก ส่วนใหญ่จึงเก็บไว้บนหิ้ง และจะใช้ตะกรุดดอกเล็ก ๆ ของอาจารย์อื่นมาพกติดตัวแทน ตะกรุดหลวงพ่อโพธิ์จะดีทางด้านคงกระพันชาตรี มีคนเคยถูกยิงก็มากไม่มีเข้า มีเรื่องเล่าของชาวบ้านผู้หนึ่ง ซึ่งมีตะกรุดหลวงพ่อโพธิ์คาดเอวไว้ดอกหนึ่ง ชาวบ้านผู้นี้เป็นชาวบ้านแถว ๆ วัดวังหมาเน่า พอถึงหน้าแล้งน้ำในแม่น้ำบางช่วงจะตื้น พอเดินลุยข้ามแม่น้ำได้ ชาวบ้านผู้นี้ได้จูงควายข้ามแม่น้ำ แต่ควายไม่ยอมลง ชาวบ้านผู้นี้ก็ลงไปก่อน แล้วค่อยดึงเชือกให้ควายเดินตามลงไป ขณะที่ลงไปแกไม่ทันสังเกตว่ามีจระเข้ขนาดใหญ่ที่ซุ่มอยู่แถวนั้น จระเข้ตัวนั้นเลยกัดเข้าที่บั้นเอวแล้วคาบลงไปในน้ำ เจ้าของตะกรุดแกมีสติดี แกชักมีดที่เหน็บไว้ที่เอวใช้มือคลำหาลูกตาจระเข้แล้วเอามีดแทงที่ลูกตาของมัน จระเข้เจ็บจึงปล่อยชายผู้นั้นออกจากปาก แล้วมันก็เผ่นหนีไป ภายหลังมาดูบาดแผล ปรากฏว่าไม่มีเข้าแม้แต่เขี้ยวเดียว สุดยอดจริง ๆ
หลักการพิจารณา
- ตะกรุดหลวงพ่อโพธิ์วัดวังหมาเน่า ส่วนใหญ่จะเจอแต่ดอกใหญ่ ขนาดเท่าแฮนด์จักรยาน ให้สังเกตภายนอก การถักเชือกส่วนใหญ่จะถักเรียงกันแบบง่าย ๆ
- ภายในให้ดูหัวท้ายตะกรุด จะเห็นแผ่นตะกั่วจะซ้อนกับแผ่นทองแดงหรือแผ่นทองเหลือง หรือซ้อนทั้งแผ่นทองเหลืองและแผ่นทองแดง
- กรณีเจอดอกเล็กขนาดประมาณ 2” ความอ้วนของตะกรุดเท่ากับนิ้วกลางผู้ใหญ่ ซ้อนแผ่นทองแดงกับตะกั่วเหมือนกัน แบบนี้จะเป็นของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
- ที่เหลือให้ดูความเก่าของเชือกและรัก สุดท้ายก็ดูโลหะ ถ้าเป็นโลหะตะกั่ว จะบี้จนมนกลมกลืนจนเป็นเนื้อเดียวกันเลยก็มี
- กรณีตะกรุดค่อนข้างสมบูรณ์ อย่างดอกเล็ก 1.5” ให้ดูที่เชือกถักส่วนใหญ่ สมัยก่อนจะใช้เชือกปอ, ป่าน มาถัก ลายเชือกถักจะไม่แน่นอน ส่วนใหญ่หลวงพ่อโพธิ์จะปลุกเสกแค่ตะกรุด ภายหลังมาถักเชือกและลงรักกันเอง ให้สังเกตที่รัก ถ้ารักเก่าจริง รักจะปริแตกเป็นริ้ว ๆ เป็นเกล็ดเล็ก ๆ เลย ส่วนหัวท้ายตะกรุดให้ดูที่ตะกั่ว ถ้าเป็นตะกั่วเก่าให้ดูที่ความหนาของตะกั่ว พื้นผิวของความหนาจะมีรอยพรุนไม่เรียบเนียน เนื่องจากถูกกัดกร่อนจากความชื้นและอากาศ
- ตามขอบรอบนอกสุดจะไม่มีความคมเหลืออยู่ เนื่องจากถูกสัมผัสมาเป็นเวลานานกว่าร้อยปี