พระเครื่อง
- หมวด 4 จตุรเทพโคตรแชมป์
- พระสุดหวงของ ช้าง–วัดห้วย
- หมวดพระสวยขั้นเทพ-มีไว้แค่โชว์
- หมวดรวมพระแชมป์ยอดนิยม
- พระเบญจภาคี
- พระปิดตายอดนิยม
- เครื่องรางยอดนิยม
- พระเครื่องเนื้อโลหะยอดนิยม
- หมวดพระหลักฝากขาย เกรดพรีเมี่ยม
- พระเครื่องเนื้อดินยอดนิยม
- พระชุดเล็กยอดนิยม
- หมวดมรดกพระเครื่อง อ.เต็ก
- หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
- พระทวารวดี และเทวรูปขนาดเล็ก
- หมวดพระแชมป์–ราคาแรงส์
- หมวดพระแปลกตาแต่แท้ชัวร์
- หมวดพระแชมป์–ราคาเบา
- หมวดพระยอดหายาก
หมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
องค์ที่ 001 สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์ตรีเนตร”
หมวดพระเครื่ององค์พิเศษนี้ ผู้เขียนจะพยายามรวบรวมพระเครื่องและเครื่องราง ที่มีลักษณะพิเศษ เช่น สวยแชมป์ คือสภาพแชมป์ ซึ่งจะหาพระเครื่ององค์ไหนมาเทียบเคียงได้ หรือพระเนื้อดินสีหายาก เช่น เนื้อสีเขียว เนื้อสีดำ ซึ่งเนื้อดินประเภทนี้จะหายาก หรือประเภทมวลสารหายาก เช่น สมเด็จวัดระฆังที่มีมวลสารบางอย่าง เช่น เศษผ้าสะไบพระพุทธ ที่สมเด็จโต ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสมลงในเนื้อสมเด็จวัดระฆัง สุดท้ายจะเป็นพระพิมพ์พิเศษ ซึ่งเป็นพิมพ์ที่หายาก หรือบางพิมพ์ที่สร้างน้อย เป็นต้น ลักษณะพิเศษดังข้างต้นนี้จะมารวบรวมอยู่ในหมวดพระเครื่ององค์พิเศษ
องค์ที่ 001 สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์ตรีเนตร”
สมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์ตรีเนตร” เป็นสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์ที่ 4 (พิมพ์เกศทะลุซุ้ม) สภาพพิมพ์โดยทั่วไปเป็นพระที่กดแม่พิมพ์ได้ลึก คม ชัด ขนาดเส้นสังฆาฏิที่หน้าอก และหูซ้ายพระยังติดชัดเจน ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ เช่น เส้นซุ้ม ใบหน้า ลำตัว แขน หน้าตัก ฐาน ทุกส่วนติดได้ลึกและชัดเจนดี ส่วนเนื้อและพื้นผิว สภาพโดยรวมเป็นพระพื้นผิวเรียบร้อย เอกลักษณ์ ที่โดดเด่นของสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์ตรีเนตร” ก็คือ มวลสาร ๆ ที่โดดเด่นมี 2 จุด จุดแรก คือ มวลสารก้อนใหญ่อยู่ตรงบริเวณใบหน้าพระ คืออยู่ประมาณโคนจมูกถึงหน้าผาก ลักษณะเป็นก้อนสีเทาอ่อน ๆ คล้ายหินอ่อน ฝังอยู่ในเนื้อ จากการวิเคราะห์ของผู้เขียน การที่มีเม็ดมวลสารขนาดใหญ่ วางอยู่ตรงบริเวณใบหน้านั้นอาจจะเป็นการจงใจที่จะวางเม็ดมวลสารไว้ตรงใบหน้าก็ได้ เนื่องจากแม่พิมพ์เป็นแม่พิมพ์ตัวเมีย ซึ่งเป็นแม่พิมพ์ขุดลึก เช่น ใบหน้าลำตัว หรือฐานจะเป็นแอ่งตามรูปพระสมเด็จ เวลาจะกดพิมพ์ก็เอามวลสารเม็ดใหญ่ไปวางตรงบริเวณใบหน้าของแม่พิมพ์ แล้วก็เอาเนื้อพระกดแม่พิมพ์ลงไป แล้วเคาะออกมา ก็จะมีมวลสารเม็ดใหญ่อยู่ที่ใบหน้าของพระสมเด็จ ส่วนเม็ดมวลสารเม็ดนี้น่าจะเป็นมวลสารที่สำคัญและหายาก เพราะส่วนใหญ่มวลสารตระกูลสีเทา จะพบเจอแต่เม็ดเล็ก ๆ ทั้งสิ้น และนี่แหละจึงเป็นที่มาของการถวายนามของสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ว่า “องค์ตรีเนตร” ซึ่งจะแปลว่า สามตา หรือตาที่สามก็ได้ ส่วนจุดที่ 2 คือ ผ้าสะไบพระพุทธ จะอยู่บริเวณกึ่งกลางแขนซ้ายพระ ลักษณะเป็นผ้าสีน้ำตาลเป็นตาตารางอยู่ในแอ่งหลุมที่มีเนื้อกะเทาะหลุดร่อนไป จุดนี้ต้องใช้กล้องส่องถึงจะเห็น สาเหตุพระสมเด็จวัดระฆังที่มีมวลสารสะไบพระพุทธผสมอยู่ในเนื้อพระ เนื่องจากสมเด็จโตเห็นคุณค่าและความสำคัญจึงนำสะไบ พระพุทธมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แล้วมาผสมลงไปในเนื้อสมเด็จวัดระฆัง ในวงการพระเครื่องพระสมเด็จวัดระฆังที่มีมวลสารสะไบพระพุทธผสมอยู่ในเนื้อพระและมองเห็นด้วยกล้อง จะมีจำนวนน้อยมาก ไม่น่าจะมีเกิน 4-5 องค์ ฉะนั้นสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ “องค์ตรีเนตร” จึงเป็นองค์สุดหวงของ “ช้าง–วัดห้วย” เลย
องค์ที่ 002 เหรียญปราบฮ่อถ้าจะกล่าวถึงเหรียญรัชกาลที่ 5 ที่ได้รับความนิยมมีอยู่ด้วยกันหลายเหรียญ แต่เหรียญ ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ต้องยกให้ “เหรียญปราบฮ่อ” ซึ่งเป็นเหรียญพระราชทานในการปราบปราบโจรฮ่อ และเป็นเหรียญที่หายากมาก ๆ ส่วนใหญ่ใครที่มีครอบครองล้วนแต่เป็นมรดกตกทอดมาทั้งสิ้น ปัจจุบัน “เหรียญปราบฮ่อ” มีราคาสูงมากถึงหลักล้าน ส่วนของเก๊ก็เพียบเลย
หลักเกณฑ์พิจารณาในการพระราชทานเหรียญ หลังจากการปราบปรามโจรฮ่อจนสำเร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างเหรียญ “ปราบฮ่อ” เพื่อพระราชทานเป็นบำเหน็จความกล้าหาญแก่ข้าราชการที่ไปปราบปรามพวกโจรฮ่อ สำหรับหลักเกณฑ์พิจารณาก็คือ ถ้าผู้ใดไปราชการสงครามปราบโจรฮ่อปีใดก็จะได้พระราชทานเหรียญในปีนั้นเลย บางคนไปถึง 2 ครั้ง ก็จะได้ถึง 2 เหรียญ ผู้ออกแบบเหรียญ คือสมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์ ลักษณะของเหรียญ - เป็นเหรียญกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 31 มิลลิเมตร - ขอบเรียบ หูเชื่อมแบบขวาง ด้านหน้า มีรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครึ่งพระองค์หันข้าง ขอบเหรียญครึ่งวงกลมด้านบน จารึกตัวอักษรไทยว่า จุฬาลงกรณ์ บรมราชาธิราช ครึ่งวงกลมด้านล่างใต้พระบรมรูป จะปรากฏลายช่อชัยพฤกษ์ตรงกลางผูกโบว์ ด้านหลัง เป็นรูปพระสยามเทวาธิราช ทรงพระแสงของ้าว ทรงประทับอยู่บนหลังช้าง ซึ่งช้างมีลักษณะก้าวเดินเหยียบบนศาสตราวุธ ครึ่งวงกลมด้านบนเหรียญจะมีอักษรไทยว่า ปราบฮ่อ ๑๒๓๙ ๑๒๔๗ ๑๒๔๙ สำหรับเหรียญปราบฮ่อเหรียญนี้ จะพิเศษกว่าเหรียญปราบฮ่ออื่น ๆ ก็ตรงหูเหรียญ ซึ่งปกติจะมีห่วงเชื่อมแบบขวางไว้สำหรับติดแถบแพรสี แต่สำหรับเหรียญปราบฮ่อเหรียญนี้จะทำเป็นแบบหูตุ้มแบบหมุนได้ ซึ่งภายในห่วงตุ้มจะมีแกนเชื่อมติดกับขอบเหรียญ แล้วเอาหูตุ้มมาประกบแล้วเจาะรูตรงกลาง เพื่อจะร้อยห่วงใหญ่เพื่อไว้สำหรับติดแถบแพรสี ซึ่งเหรียญปราบฮ่อแบบหูตุ้มนี้ ผู้เขียนคาดว่าน่าจะสร้างในยุคแรก ๆ หรือปีแรก ๆ ในการพระราชทานเหรียญ ซึ่งการผลิตเหรียญแบบหูตุ้มนี้อาจจะทำได้ยาก จึงปรับเปลี่ยนมาเป็นแบบหูเชื่อม แบบขวางแทน ซึ่งเป็นแบบ ที่แพร่หลายทั่วไป เท่าที่ผู้เขียนเคยเห็นเหรียญปราบฮ่อแบบหูตุ้มนี้ เคยเห็นลงในหนังสือแค่เหรียญเดียวเท่านั้น และเพิ่งมาเจอเหรียญนี้เป็นเหรียญที่สอง ส่วนหลักการพิจารณาเหรียญปราบฮ่อก็เหมือน ๆ กัน แม่พิมพ์ก็คือบล็อคตัวเดียวกันให้เข้าไปดูในหมวดบทความ และนี่ก็คือเหรียญปราบฮ่อสุดหวงเหรียญหนึ่งของ ช้าง–วัดห้วย
|